ชีวิตที่ยังมีกิเลส
ธนา เธียรอัจฉริยะ.กิน
มาร์ก เอลเลียต ซักเคอร์เบิร์ก.ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก
ยายยิ้ม.รูปคือหุ่น
มินท์ มณฑล.เดินทางกว่า80ประเทศคนเดียว
บูม วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ ร้บตัดกางเกงยีนส์
ดิษยา ออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี
ศิริวัฒน์ ขายแซนวิช
นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ นักตัดต่อ
ดุจดาว วัฒนปกรณ์ นักจิตบำบัดด้วยศิลปะการเคลื่อนไหว
น้องแพร สอนแต่งหน้าบนเว็บ
พี่เอ้ ศ.ดร.สุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีม.ลาดกระบัง
กมลเนตร เรืองศรี นักแสดง
บอย อภิศิลป์ ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บพันทิป
ปอมชาน นักศิลปะ
ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี นักแสดง
********************
ผมเป็นผู้บริหารตั้งแต่อายุไม่เยอะนะครับ 8ปีที่แล้วเป็นผู้บริหารระดับสูง
ดีแทค ฟังดูเท่ๆ หล่อๆ ตอนนั้นผมใช้ชีวิตแบบผู้บริหารมาก
ทำงานหนัก กินเยอะ ความจริงบริหารได้ทุกอย่างเลย
ผมตัดสินใจทำโน่นนี่ไปหมดเลย แต่ไม่บริหารตัวเอง
ผมเป็นคนที่เรียกแบบว่า อับชีวจิต ผมไม่กินผัก ผมไม่ชอบกินผักเลยนะครับ
ผมชอบกินขาหมูมันล้วน เวลาไปกินขาหมูมันล้วน ลูกน้องจะนับถือผมมาก พี่แมนมากเลย พี่กินขาหมูมันล้วน2จาน แล้วตามด้วยโค้กเย็นๆ1ลิตร
ผมชอบกินบุฟเฟฟัวกรา่ที่โอเรียลเตนมาก คือกินฟังกรา30ชิ้น กินฝอยทองหนาขนาดนี้
ออกกำลัง ผมเด็กๆ วิ่งได้กิโลผมก็เหนื่อยแล้ว ไม่เป็นคนออกกำลังอะไร
แต่โชคดี ไม่เคยป่วย เวลาผ่านไปนน.ขึ้นสูงเคยถึง95กก. คลอเรสตอรอลสูง
ไตรกรีเซอไรล์ มีไขมันพอกตับ แต่โชคดี ไม่เคยป่วยเลย...(เรา:ตัวช่วยคือบุญ)
วันหนึ่งวันดีเดย์ ทำงานหนัก2อาทิตย์ วันนั้นประชุม มีเรื่องหนักๆ
เรื่องฟ้องร้องอะไรเข้ามา ตอนนั้นเที่ยงบุฟเฟ่ที่โอเรียลเตน ตอนเย็นบุฟเฟ่อีกแล้วที่แชงการีรา ผู้บริหารเค้าชอบนัดกินบุฟเฟ่
ระหว่างทางมันเหนื่อยๆ กินๆไปเอะหัวใจมันเต้นผิดปกติ แบบไม่เป็นจังหวะ และเต้นเร็วมาก มือเย็นเท้าเย็นเหมือนกับจะเป็นลม ตกใจ ขอตัวกลับบ้าน
นอนในรถ ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่านอนแป๊บเดียวคงหาย ปรากฏว่ามันไม่หาย
หัวใจจะวายไหม พอดีผ่านรพ.บำรุงราษฎร์พอดี(เรา:ตัวช่วยคือบุญ) เข้ารพ.
เสียบอะไรเต็มไปหมด คนนอนข้างๆแขนขาด ตกใจ คนไม่เคยเข้ารพ.
หัวใจเต้นตุบๆ ตอนนั้น2ทุ่มกว่า หมอหัวใจกลับ หมอเวรโทรปรึกษา ให้ส่งผมเข้าccu คือไอซียูหัวใจ
คนเราจะจำแม่นเมื่อถึงเวลาเหตุการณ์แบบนี้ เข้าไปในห้องเล็กๆ
แอร์จะเย็นมาก(=ให้เชื้อโรคเติบโตช้า) คนนอนข้างๆผ้าคลุมหน้า เอ๊ะหรือเค้าจะไปแล้ว ยิ่งน่ากลัวมาก
พยาบาลบอกห้ามลุกนะคะอันตรายมาก สายเต็มตัวไปหมด
ถ้าจะฉี่ พยาบาลจะหิ้วแขน2ข้างไป เป็นintensive care
ใครเจอเหตุการณ์แบบนี้จะนอนไม่หลับ ความคิดแรก ทำไมเราซวยอย่างนี้วะ
คือเพื่อนคนอื่นนน.100กว่าโลก็ไม่เห็นเป็นอะไร(เรา:จิตตก ส่งจิตออกนอก)
คิดถึงหน้าที่การงานยังดีอยู่เลย ลูกก็น่ารัก เมียก็ยังสวย ภาพจะเข้ามา
คิดถึงตัวเอง คิดถึงงานศพ มันกระทันหันมาก ภรรยาผมจะตอบว่ายังไง
ตอบว่าผมมันจุกอกตายเหรอ ผมเป็นลูกชายคนเดียว พ่อแม่คงต้องหนีไปต่างประเทศสักพักหนึ่ง เพราะมันอายมาก เราไม่ได้เป็นฮีโร่
คิดว่าหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวอีก ...มันเป็นความเศร้าทุกข์ทรมาน
ตอนเช้าผลการตรวจ ไม่เป็นโรคหัวใจ ซวยคืออะไร ถ้าเป็นโรคหัวใจก็ทำบายพาส ใช้ชีวิตต่อไป หมอบอกอาจเป็น...เต็มไปหมด
ให้ยากิน ส่งกลับบ้าน
ผมไม่รู้ว่าผมหายหรือเปล่า ผมก็เลยมีอาการทางประสาทต่อเนื่อง...
เป็นเดือนเลยครับ คือเวลาไปไหน จะคิดว่าแล้วมันจะมาไหม
แล้วมันจะมา ผมจะต้องนอนเปลี้ยๆ หัวใจมันจะวาย ที่นั่งบนที่ทำงานบ้าง
เบาะหลังรถบ้าง กินข้าวเที่ยงก็ไปไม่ถึง ผมทำงานได้แค่ครึ่งวัน ต้องกลับ
ทำงานวันเว้นวัน ชีวิตเค้าไม่ไล่ออก ก็บุญแล้ว จำได้ว่าไปดูโน้ตอุดม
ต้องออกมานอนข้างนอก เหงื่อแตกเต็มไปหมด ผมบอกกลับเถอะๆ หัวใจจะวาย ภรรยาบอกประสาท ไม่เป็นอะไรหรอก
ผมหาหมอโรคหัวใจที่เก่งที่สุด3คน บอกว่าผมเป็นโรคประสาท...
ผมทรมานมาก ร่างกายบีบๆ ผมทำอะไรไม่ได้เลยนะ
คิดตลอดเวลาว่าทำไมมันซวย มันโชคร้ายอย่างนี้ คิดเป็นเดือนเลยนะครับ
ผมลองนั่งสมาธิ มันไม่ได้ ลองหาทางอื่นเยอะแยะไปหมด
ที่สำคัญตอนนั้นผมอ้วน...รู้ว่าอะไรดี แต่ชอบฝีนมัน ตามใจตัวเอง
8:10 ในที่สุดเอาวะ ต้องทำอย่างที่คนแข็งแรงเชาทำกันแล้วกัน
อย่างแรกคือกินผักเหมือนยา ไม่ใส่น้ำสลัดอะไรทั้งสิ้น กินให้มันจบๆ
อย่างที่2คนสุขภาพดีเขาทำอะไรกัน ออกกำลัง วันแรกออกไปวิ่ง
วิ่งได้100ม.ฟังแล้วขำมากเลย เหงื่อเต็มตัวไปหมด แต่พอกลับมาครึ่งวัน
วันนั้นอาการที่เคยเป็น มันหายไปไม่มา ผมคิดเองเออเอง กินผักกับวิ่งมันคงช่วยมั้ง เออลองดู ทำอีกๆ กินผัก วิ่งมากขึ้นๆ
เลิกกินมื้อเดียว กิน2มื้อ วิ่งยาวขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งวิ่งยาว คิดไปเองว่า
อาการนั้นมันเริ่มห่างไปเรื่อยๆ 2เดือนนน.ผมลด15โล ผมวิ่งได้เกือบ10โล
เหมือนฟลอเรสกั้ม วิ่งให้มันรอดจากอาการที่เราเกลียดมันมาก ผ่านไปเรื่อยๆ
9:20 มีบางช่วง ผมคิดว่าอาการมันคงไม่มาแล้วมั้ง สักปี2ปี เริ่มขี้เกียจ
ไม่วิ่งแล้ว แป๊บเดียว จบ มาเลย เอ๊ย นอนตัวงอเหมือนเดิมเลย
หลังจากนั้นผมไม่กล้าเล่นกับเรื่องอย่างนี้เลย วิ่งเกือบทุกวัน ผมเกลียดวิ่งมากนะครับ ไม่ชอบเหงื่อออก ผมขี้เกียจวิ่งมาก วิ่งเพราะว่ากลัวตายล้วนๆเลย วิ่งมา8ปี ปีละพันกว่ากิโล
10:15 ทบทวนกับชีวิต วันนี้อายุ46 แข็งแรงที่สุดในชีวิต เราได้ทำอะไบ้าง
ไม่เจ็บป่วยอะไร อย่างมากเป็นหวัดนิดหน่อย วิ่งฮาฟมาราทอน ไม่เคยคิดว่าวิ่งได้ นั่นคือกาย พอวิ่งได้ ใจมันก็อยากทำอย่างอื่นอีก
ลองเตะบอล ชกมวย ออกจากงานเพราะวิ่งเลยครับ สมัยก่อนผมขี้กลัวมาก
จะอยู่ในมุมสบาย พอทำ1ได้ 2...3ได้...ได้ทำในสิ่งที่รัก พาผมไปเจอคน
ปกติผมตื่นเต้นหัวใจจะเต้นบึบๆ เหงื่อแตก แต่วันนี้ก็ตื่นเต้น แต่ไม่มีอาการ
เพราะผมวิ่งไง ผมเข้ารพ.คืนนั้น...มันเปลี่ยนผม มันบังคับผมต้องเปลี่ยน
ccuคืนนั้นไง
11:56 ปกติเราชอบเล็งโอกาสอะไรง่ายๆ โอกาสได้ไปเที่ยว โปรโมทตำแหน่ง
...สุภาษิตจีน โอกาสมักซ่อนอยู่ในวิกฤติ แต่ก่อนผมเกลียดวิกฤติมากเลย
แต่วิกฤติบังคับให้เราเปลี่ยนตัวเอง เมื่อไหร่ผมประมาท วิกฤติจะมาเตือนผมทันทีเลย วิ่ง วิกฤติมาเตือนแล้ว มันจะต้องมีอะไรดีๆแน่เลย
ธนา เธียรอัจฉริยะ.กิน
https://youtu.be/GfvRA6niMec
ฟัวกรา (ฝรั่งเศส: foie gras; เสียงอ่านภาษาฝรั่งเศส: [fwɑ gʁɑ] แปลว่า "ตับอ้วน") คือตับห่านหรือเป็ดที่ขุนให้อ้วนเป็นพิเศษ ฟัวกราได้ชื่อว่าเป็นอาหารฝรั่งเศสที่ดีที่สุด
https://th.m.wikipedia.org/wiki/ฟัวกรา
********************
มาร์ก เอลเลียต ซักเคอร์เบิร์ก เกิดวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2527( ค.ศ.1984)ที่ ประเทศอเมริกา เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก เขาร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊กร่วมกับเพื่อนอีก 4 คน ขณะกำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ต่อมา นิตยสารไทม์ ได้ให้เขาเป็นบุคคลแห่งปี ค.ศ. 2010 วิกิพีเดีย
เรา:นึกถึงหลวงปู่“อย่าดูถูกตัวเอง“
0:52 เป้าหมายคือการที่เรามีส่วนร่วมกับอะไรที่ใหญ่เกินตัวเรา
1:29 พวกเราเป็นแค่เด็กนักศึกษา มีบริษัทยักษ์ใหญ่มากมาย ทีมีทรัพยากร ผมคิดว่าบริษัทพวกนี้ต้องทำแน่นอน แต่ความคิดนี้มันชัดเจนมาก ที่เราต้องการเชื่อมคนบนโลก พวกเราก็เลยทำมันมาเรื่อยๆ
มีคนคิดแบบนี้ แต่เขาไม่ทำ เราทำ...
ผมไม่ได้ต้องการสร้างบริษัท ผมต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง...
มีบริษัทยักษ์ใหญ่ต้องการเข้ามาซื้อบริษัท...
ผู้บริหารทุกคนลาออก ตอนนั้นมันแย่ที่สุด
ผมเชื่อในสิ่งที่ผมตัดสินใจ แต่ตอนนั้นผมโดดเดี่ยว
แต่สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือ มันจะเป็นความผิดของผม
ผมเลยสงสัยว่า สิ่งที่ผมตัดสินใจ มันถูกแน่เหรอ
เด็กอายุ22ที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ถูกคืออะไร แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว
ถ้าพวกเราไม่มีเป้าหมายสูงสุด มันจะเป็นยังไง
มันจึงเป็นหน้าที่ของพวกเรา ที่จะสร้างเป้าหมายสูงสุด
แล้วเดินไปด้วยกัน
มาร์ก เอลเลียต ซักเคอร์เบิร์ก.ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก
https://youtu.be/VJAcTpJtTa0
********************
ยายยิ้ม.รูปคือหุ่น
https://youtu.be/ocSOkDK2pj4
********************
หลังแบงค์20 ในหลวงเสด็จสำเพ็ง มาจากภาพถ่ายเก่า
ภาพถ่าย1ภาพ อธิบายสถานที่นั้นในเวลาที่ผ่านมา คำบอกเล่าจากคนในท้องถิ่น ซึ่งนักวิชาการก็ไม่มีวันจะได้
สมชัย.ประวัติศาสตร์ละแวกบ้าน
https://youtu.be/6FGHJxEx6Ts
********************
7:20 ก้าวข้ามความกลัวได้ 1) เอาสิลองดู ไม่ว่ากับตัวเอง หรือกับคนที่มาถาม มันเหมือนกับเป็นการเปิดประตูให้โอกาสกับตัวเรา
2) โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเรา หลายๆคนชอบควบคุม ชอบวางแผน แผนการต้องเป็นแบบนี้ๆ มินท์แต่ก่อนชอบพูด ทำไมแค่นี้ทำไม่ได้
การเดินทางสอนเราว่า เราไม่ใช่ศูนย์กลางของโลก
ด้วยการให้มินท์ตกรถ ตกเรือ รถไฟเสีย จะไปกาญจนบุรีแค่นี้ โดนโกง โดนไล่ออกจากที่พักก็มี
เราพบว่า เราไม่สามารถควบคุมอะไรได้
ปัญหาและการเปลี่ยนแปลง มันเกิดขึ้นตลอดเวลา
สิ่งเดียวที่เราควบคุมได้ คือทัศนะคติของเราเอง
คือเราจะมองว่า ซวยจังเลย โทษเพื่อนก็ได้ โทษตัวเองก็ได้
แล้วจงอยู่กับที่(=นิ่งๆ) หรือเราจะมองว่า มันคือการผจญภัย
เราตั้งสติ แล้วเราค่อยๆแก้ไป นี่คือบทเรียน ทำให้เราโตขึ้น
เวลาเราเจอปัญหา เราเลือกได้ ว่าเราจะอารมณ์เสีย หรือค่อยๆแก้ปัญหากันไป แล้วเดินหน้าต่อไป
3)การเดินทางสอนให้เราเห็นคุณค่า ของสิ่งเล็กๆที่อยู่รอบตัว
สมัยก่อนเราก็มีทุกสิ่งแหละ แต่เราไม่ค่อยมอง เรามักมองสิ่งที่เราไม่มี
สิ่งที่เรามี เรามักมองไม่เห็นคุณค่าเท่าไหร่ อย่างเตียงนอน
หลายๆที่นอนเต็นท์ที่นอนบาง บางทีตื่นมาน้ำท่วมเต็นท์
หลายที่ไม่ได้อาบน้ำ เราจึงเริ่มชิน
บางที่ไม่มีไฟฟ้า สัญญาณโทรศัพท์
จากที่เคยเป็นคนกินยาก กลายเป็นคนกินง่าย เพื่อเอาชีวิตรอด
เช่น องคชาติม้า อาหารบางอย่างกลิ่นแรง ก็ใส่ซอสพริกกลบกลิ่น
พอกลับมาถึงบ้าน เอื้อมมือเปิดก็อก น้ำก็ไหล กดสวิชก็ไฟมา แอร์ก็มี
คือชีวิตต้องการอะไรอีก กลับมาถึงบ้านชอบกินแตงร้านผัดหมูแม่ก็ผัดให้กิน สิ่งเล็กๆน้อยๆรอบตัว ถ้าเรามองอย่างเห็นคุณค่าแน่นแฟ้น
มันคือความสนุก ความสุข แล้วก็ยิ้มให้กับอะไรได้ง่ายขึ้น
4)สมัยก่อนเวลาเราทะเลาะกับใคร รู้สึกอยากจะหายไปจากโลกนี้ซะ
ความทุกข์เรามันใหญ่มากเลยนะ แต่พอมาคิดว่า
โลกเรามันแคบไปหรือเปล่า มินท์เหมือนคุณหนู ไปรร.มีคนไปรับ-ส่ง
อยู่มหาวิทยาลัย ห้องสมุด พารากอน หมดไป1วัน
การเดินทางพาเราออกจากห้องแคบๆมืดๆ ไปสู่ที่สว่างขึ้น
13:11ให้เราเห็นชีวิตที่เราไม่เคยเห็น จะดีหรือจะร้ายก็ตาม...
16:55 ต้องหาเวลาอยู่กับตัวเองบ้าง ความคิดทั้งหลายเริ่มลงรวม ทำให้เกิดบทสนทนากับตัวเอง :ช่วงนี้แกเป็นอะไรวะ
เป็นกลไกทำให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง
เราอยูาคนเดียว เดี๋ยวเราก็แชต ไลน์..
แต่อย่าลืมว่าเราต้องเชื่อมกับโลกภายในบ้าง
บางคนบอกว่าต้องเดินทางไกลข้ามน้ำข้ามทะเลแบบมินท์เลยเหรอ
ไม่ต้อง ใกล้ๆก็ได้ เสาร์อาทิตย์ หรือบ่ายวันหนึ่งก็ได้
แล้วปิดมือถือก่อนเลยอันดับแรก
ออกจากบ้าน จะนั่งรถเมล์ เรือ...อะไรก็ได้ ทีช้าๆ นี่คือการเดินทางแล้ว
การเดินทางคือการที่เราเอาตัวเอง ออกจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆ
เพื่อปลุกประสาทสัมผัสของเรา เพราะเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ
ตาเรามอง แต่เราไม่เห็น หูเราได้ยินแต่เราไม่ได้ฟัง
เพราะฉะนั้นออกเดินทางได้แล้ว เปิดใจให้กว้างๆ ไม่ต้องคาดหวังอะไรมาก เปิดตา เปิดหู เปิดปากคุยกับคนข้างๆซะ นี่แหละเราได้เรียนรู้
ในระหว่างที่เรากำลังสนุกกับโลกภายนอก เราได้เรียนรู้โลกภายใน
ในอีกปี2ปีข้างหน้า เชื่อไหม เราอาจจะเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น
มินท์ มณฑล.เดินทางกว่า80ประเทศคนเดียว เผยแพร่26ก.ย2558
************************
05:09 ถาม:เหมือนเล่นบาส ตามองป้ายคะแนนไปตลอด ตุณจะเล่นบาสฯได้หรือเปล่า
ตอบ:ไม่ได้
ถาม:คุณจะชู้ตได้อย่างไรล่ะ คุณต้องเข้าใจก่อนว่า อะไรคือเกมของธุรกิจ ถ้าคุณเล่นเกมได้ดี คะแนนของคุณจะมา ธุรกิจมันไม่เคยเกี่ยวกับเงิน แต่เงินคือคะแนนของคุณ...
9:06 เราสร้างความเป็นไปได้จากบริบทที่มี...
อาคารเก่าไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อควาใคิดสร้างสรรค์
อาคารเก่าเมื่อเรามองเป็นบริบท ไม่ได้มองเป็นอุปสรรค มันก็จะก่อให้เกิด ความคิดใหม่ๆได้เหมือนกัน...
15:59 เราไม่ได้คิดว่าเราเป็นคนตัวเล็กๆ เรามีความสามารถที่เป็นไปได้
ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใยระดับโลกได้ (เรา:อย่าดูถูกตัวเอง)
ไม่ได้มาจากความหยิ่งจองหอง ความเพ้อเจ้อ โดยไม่ได้ลงมือทำ
เราก็ทำงายหนัก ทำแบบไม่เคยหยุดเลย
ผมก็บอกว่า มันไม่มีเคล็ดลับ มันไม่มีความลับในความสำเร็จ มันแค่
ทำ กับ ไม่ทำ(เรา:นั่นมันตำรา ปฏิบัติไปเรื่อยๆ)
หลายคนมีความฝัน ชั้นจะเป็นสถาปนิกระดับโลก แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะ
ตอนนี้ชั้นไปเที่ยวก่อน...
17:09 คนอยากเปิดร้านกาแฟ แต่ไม่เคยทำงานร้านกาแฟเลย คุณคิดว่าจะworkไหม อันนั้นคือสิ่งที่เค้ากระโดดข้ามไป ไม่ได้ไปตามขั้นตอน
คุณต้องเริ่มจากคุณมีประสบการณ์ แล้วคุณชำนาญในสิ่งนั้นๆ
26:52 ถาม:จะทำยังไงกับกรุงเทพ
ตอบ:วางผังเมืองให้มีจุดสีแดงสอดคล้องกับย่าน เมื่อกำหนดปับ ราคาที่ดินจะสูงทันที คนก็อยากจะไปพัฒนา จากเดิมเขาเคยสร้างได้2:1 ตอนนี้เขาสร้างได้8:1 คอนโดผุด ออฟฟิศผุด เกิดที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน เกิดcommunity คนทำงานตรงนี้ก็ได้ การจราจรลดลงทันที
(เรา:ตาลไม่ต้องไปประตูน้ำ ทำที่คอนโดได้)
แต่พวกนี้ใช้เวลาเป็น10ๆปี กว่ามันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
(เรา:บ้านคูคตไง ตอนนี้ปี62กับ59ที่เราไป ย่านเฟอร์เจอร์ไม้หายไป)
ความคิดเดิมให้มีย่านเจริญแบลรวมศูนย์จุดเดียว มาจากเอาผังเมืองอเมริกามาใช้ เขามีคน3-5ล้านคน แต่กรุงเทพมี~10ล้านตอนนี้
28:27 ถ้ากระจายความหนาแน่นด้วยผังเมืองได้ ปัญหาขยะ รถติด มลพิษ...จบ แต่มันเกี่ยวข้องกับการเมือง ผลประโยชน์ที่ดิน...
ที่ไม่อยากให้คุณเปลี่ยน
ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิก.
https://youtu.be/WP7KVq--4Fs
********************
33:20 ถาม:คุณสามารถประสบผลสำเร็จ ที่รวดเร็ว
เพราะในวัยที่คนเค้าไปเที่ยวสวนสนุก คุณก็ไปสวนสนุก
ถ้าคุณเลี้ยวขวา แต่คุณเลี้ยวซ้ายเพื่อไปตามหาสิ่งที่ชอบไง
คนที่แตกต่าง เค้าเลือกที่จะแตกต่างอยู่แล้ว
ถาม:ผมชอบที่พูดว่าคนเรามันต้องเชื่อจริงๆ แล้วคนเค้าจะเชื่อเรา
https://youtu.be/Ewp6EJVpfN4
********************
จ.19ส.ค62 เราอยู่วัดนี้ติดต่อกันช่วงเข้าพรรษาเป็นปีที่4
เริ่มจากช่วงเข้าพรรษาปีแรก เริ่มพฤ.25ส.ค59 มีคนมาอยู่แล้วออกไป
คนแล้วคนเล่า เมื่อมาเจอคำตอบของท่านนี้ รู้สึกถึงตัวเอง ว่าอยู่ได้ยังไง
35:00 ถาม:พี่ออมฝันอยากจะเป็นแฟชั่นดีไซน์เนอร์ ในขณะยุคที่พี่ออมฝัน พ่อแม่ก็ยังงง มันจะทำได้ยังไง เค้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ในโลกแห่งความเป็นจริงมันถูกทาง ในขณะที่คนรอบข้าง มันเป็นไปไม่ได้
ตอบ:ในตอนนั้นมันเป็นฝันที่ เรารู้ลึกๆว่าเรามีพลัง ที่จะทำ
แบบไม่เคยมีพลังแบบนี้มาก่อน
เราไม่เคยอดหลับอดนอนได้ขนาดนี้
เราไม่เคยตั้งใจทำมากขนาดนี้มาก่อน
มันมีเหนื่อยบ้าง แต่มันไม่เคยหมด จนถึงทุกวันนี้ มันยังมีพลังนั้นอยู่
เพราะฉะนั้นมันเป็นฝันที่เวลสำหรับเรา
ดิษยา ออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี
https://youtu.be/a1FVaarIRYg
********************
คิดไม่ตก จะต้องเป็นบุคคลล้มละลาย
ผมบอก พี่ เป็นก็เป็น ผมเป็นมาแล้ว ไม่มีอะไรครับ พี่ถูกยึดทรัพย์หมดใน3ปี
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า เป็นบุคคลล้มละลาย
ครบ3ปี ก็จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า พ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลาย
12:16 ผมได้อ่านคำบางคำ ชีวิตที่มีค่า ไม่ใช่ชีวิตที่ร่ำรวย มีเกียรติหรืออายุยืน แต่ชีวิตที่มีค่านั้น คือชีวิตที่ตัวเราเป็นคนมีคุณค่า และทำให้ชีวิตคนอื่นมีคุณค่า
(เรา:อย่าคาดการณ์ล่วงหน้า:หลวงปู่เซียนคืออย่างนี้เอง)
ศิริวัฒน์ ขายแซนวิช
https://youtu.be/FTMQ7BuUfog
2:30ก่อนปี40ผมรวยนะ แต่ผมไม่รู้จักพอ ผมมีล้านอบากได้10 มี10อยากได้100 มี100 อยากได้หลาย100 วิกฤติมาพอดี
ผมต้องไปพึ่งเงินคนอื่น พึ่งสถาบัน ไม่พึ่งตนเอง ผมเลยต้องเจ๊ง
ถาม:แสดงว่าแขวนตัวเองไว้บนcrisisตลอดเวลา
ตอบ:ใช่ ตอนนั้นขายคอนโดมิเนียมในสนามกอล์ฟ มิชชั่นฮิลที่เขาใหญ่
ห้องหนึ่งขาย30ล้าน...
ผมมีหนี้1,000ล้าน ล้มละลาย
ศิริวัฒน์ ขายแซนวิช
https://youtu.be/gWundW86pt0
********************
“ต้องให้เวลา“ “ดูกันยาวๆ“ “อย่าเพิ่งพิพากษาใคร““ขึ้นอยู่กับเจตนา“
หลวงปู่สอนว่า“สัจจะคือความจริง ทำไมไม่พูด“
9:49 เราจะดูคลิปใดๆ เราต้องดูให้ช้าลง. หรือเราฟังอะไรจากเพื่อน
เราควรจะมองให้เห็นการตัดต่อที่เกิดขึ้น
ถ้าเรามองไม่เห็น เรามีสิทธิ์ที่จะถูกหลอก ถูกชักจูงไปได้ง่ายๆ
เหมือนดูหนังในโลงแล้วอิน แสดงว่าเสร็จการตัดต่อของผมไปเรียบร้อยแล้ว ยังมีอีกหลายเทคนิค ผมจะทำให้คุณดูเศร้า เติมเพลงลงไปเลย...
คุณดูข่าว ภาพป้าคนหนึ่ง อยากให้ป้าดูเศร้ากว่าเดิม เปิดเพลง
ภาพข่าวอาชญากรรม อยากให้ตื่นเต้นกว่าเดิม เปิดเพลงแอคชั่น
เราจำเป็นต้องดูสิ่งเหล่านี้ให้เป็น...
เพราะการสื่อสารทุกวันนี้ มันล้วนเป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว
นี่เป็นยุคผลิตคลิปเรียลริตี้ทั้งหลาย ทุกคนมีมือถือ มีกล้อง...
จนเราอาจจะงงว่าคลิปไหนเรียล หรือไม่เรียล...
ผมรู้สึกว่าคนเอ็นจอยกับการดูคลิป มากกว่าดูหนังอีกนะ
เพราะว่าความจริง มันมีพลังความจริง ทำให้คนคล้อยตามได้ง่าย
บริษัทเอาคุณสมบัตินี้มาผลิตเป็นโฆษณา
เช่น ตามติดชีวิตน้องป.6คนนี้ สุดท้ายเป็นโฆษณารถ หรือขนมว่ะ
ดูอย่างนี้บางทีโกรธเหมือนกันนะ ซึ้งไปกับน้อง สุดท้ายโฆษณา
มันทำให้ความจริงที่อยู่รอบๆตัว มันศักดิ์สิทธิ์น้อยลง
เราก็จะระแวง นี่ก็ไม่ใช่ นั่นก็ไม่ใช่
แต่สำหรับผม ผมรู้สึกดีมาก
เพราะว่าการที่เราตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว สิ่งที่อยู่รอบข้าง
เราควรจะมีกันได้ตั้งนานแล้ว ไม่ต้องรอ ให้ถึงยุคนี้ก็ได้
มันเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ก่อนเราจะเชื่ออะไร ต้องคิดวิเคราะห์
ตามหลักกาลามสูตร (หลวงปู่“พิจารณา คำนวณ ใคร่ครวญดูก่อนสิ อย่าเพ่งด่วนเชื่อ อย่าเพิ่งด่วนปฏิเสธ)...
ความจริงคืออะไร สำหรับผมความจริงคือไม่มีความจริงไหนที่สมบูรณ์
สำหรับผมสิ่งที่เราเห็นเป็นความจริงทุกวันนี้ มันคือข้มูลชั่วคราว
ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ รอค้นพบทฤษฎีใหม่
จะมาล้าง ข้อมูลนี้ก็เก่าไปแล้ว...้
เราต้องพร้อมที่จะอยู่กับความจริงชุดใหม่
สิ่งที่ผมพูดวันนี้อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ อย่าเพิ่งเชื่อครับ
นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์
https://youtu.be/EoBLvRzVf5U
********************
ขณะที่กำลังเคลิ้มๆ เราสะดุ้งกับคำพูดของท่านนี้ เป็นการอธิบายการจ้องดูตัวเอง เดินจงกรมคือการเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดปัญญา
หลวงปู่สอน“คอมพิวเตอร์ในตัว“ เรายังไม่เข้าใจชัด จนได้ฟังท่านนี้
3:20 ร่างกายบันทึกข้อมูลทุกอย่างตั้งแต่แรกเกิดจนถึงปัจจุบัน...
ทั้งที่เราจำได้และจำไม่ได้
ผ่านผัสสะ ตามองเห็น กลิ่นที่เรานึกหวลถึงเหตุการณ์บางอย่าง
เสียงเพลง รสชาดมันดึงความทรงจำบางอย่างกลับมา...
เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหวร่างกายเป็นการกระตุ้นสิ่งที่ลืมไปแล้ว
มาเชื่อมโยงกับความคิดของเรา
ดึงเอาทักษะที่เราไม่ค่อยได้คิดไม่ค่อยได้มอง
เอามาประมวล แล้วเกิดความเข้าใจในตัวเอง
และมากไปกว่านั้น ร่างกายเป็นเพื่อนสนิทของจิตใจ
(=จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว)
ไม่ว่าจิตใจของเราจะหดหู่ ร่างกายจะดาวน์ตามไปด้วย
และเมื่อไหร่ที่เรายืดร่างกายขึ้นเปิด อยู่ดีๆก็จะเปลี่ยนไป
(ยายจ่อยเดินนั่งภาวนา ตัวงอๆ มันต้องยืดตัวให้อกผายไหล่ผึ่ง)
เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ที่เราเคลื่อนไหว แต่เราโฟกัสเข้าไปข้างใน
(หลวงปู่สอน“จ้องดูตัวเอง อย่าไปจ้องดูคนอื่น“)
ปล่อยความคิด ทำงานกับความรู้สึกและร่างกาย
เขาเรียกการมีบทสนทนากับร่างกายของตัวเอง
และเราแค่อนุญาตให้มันเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ
แล้วสักพักคำตอบมันจะมา คำตอบไม่ได้มาแบบปิ๊งนึกออกแล้ว
คำตอบจะมาแบบอ๋อ เออๆ นึกออก เอาล่ะ เข้าใจล่ะ...มีสูตร
1.ทีปวดหัวทุกวันนี้มาจากอะไร เครียดเพราะอะไร
2.มีพื้นที่ที่ปลอดภัย คืออะไร พื้นที่ที่ปลอดจากสายตาคนอื่น
เธอทำดีหรือยัง เธอทำถูกหรือยัง
(หลวงปู่สอน“อยู่ในที่เงียบสงบ ปราศจากฝูงชน“)
3.หาเวลาที่ว่างๆ ไม่รีบไปทำอะไร
(หลวงปู่สอน“ทำไปเรื่อยๆ แต่ต้องทำประจำ“)
4.ยอมให้ร่างกายของเรา ว่างจากการทำงาน
5.เปิดก็อกความคิดให้มันไหลออกมาสถานเดียว ปล่อยให้ร่างกายเคลื่อนไหว ตอบสนองกับความรู้สึก แล้วบทสนทนาจะตามมาแล้วคำตอบจะตามมา แล้วคำตอบมันคืออะไร เราก็เลือกได้...
วันไหนความคิดตีบตัน เอื้อมหาตัวช่วย(=เดินจงกรม)...
ถ้าเราวิ่งหาคำตอบให้กับทุกอย่าง แต่ไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง
สังคมนี้จะเป็นยังไง เราวิ่งตามกระแสโลก ทำไปทำไม เราเป็นใคร
อะไรทำให้เป็นเราทุกวันนี้
น่าเสียดายมากถ้าเราลืมไปว่า ร่างกายคือเพื่อนคิดที่ดีที่สุด
ดุจดาว วัฒนปกรณ์ นักจิตบำบัดด้วยศิลปะการเคลื่อนไหว
https://youtu.be/3uvnzqj25dw
********************
หลวงปู่สอน“ทำอะไรที่ไม่เคยทำ อะไรที่เคยทำแล้ว ไม่ต้องทำ“
ไปเรียนคอร์สแต่งหน้า1สัปดาห์ที่อังกฤษ แรกก็กลัวว่าจะเรียนทันคนอายุมากกว่าไหม แต่กลับได้มิตรภาพจากครูและเพื่อน...
แม่ให้เรียนเพราะจะได้ภาษา...
น้องแพร สอนแต่งหน้าบนเว็บ
https://youtu.be/2UoGnz3jtR0
********************
32:05 เกรดที่ลาดกระบัง ไม่เหมือนเกรดที่ไต้หวัน ไม่เหมือนเกรดที่ฝรั่งเศส เกาหลี ญี่ปุุ่น
เพราะฉะนั้นมหาวิทยาลัยดังๆบริษัทดังๆ ถึงให้เราเขียนถึงตัวเอง ว่าทำไมเราถึงอยากไปเรียนไปทำงานกับเขา กระดาษA4 เขียนห้ามเกิน300คำ ซึ่งมันนิดเดียว
ถาม:พี่เขียนว่าอะไร
ตอบ:พี่เขียนว่า ทุกวันพี่โหนรถเมล์มาเรียนใช้เวลา2ชม.ครึ่ง กลับใช้เวลา3ชม. มองออกมานอกหน้าต่างรถเมล์ สมัยก่อนประเทศไทยเคยชื่อสยามเมืองยิ้ม แต่เท่าที่พี่เห็นทุกวันนี้รอยยิ้มหายไป เพราะการจราจรและมลพิษ ทุกคนหงุดหงิดไปหมด รอยยิ้มหายไป ผมในฐานะเด็กเรียนโยธาคนหนึ่ง ในฐานะประธานกิจกรรมนักศึกษา ก็เลยริเริ่ม
ทำโปรเจคปี3,4 ทำเรื่องรถไฟฟ้าใต้ดินในประเทศไทย ไปมอบให้ผู้ว่าราชการกทม. ส่งรูปไปให้ดูเลยนะ จะได้เห็นผู้ว่ากทม. ท่านได้นำไปใช้สร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน บรรเทาปัญหาการจราจร
พี่ทิ้งท้ายว่าMIT คนไปเหยียบดวงจันทร์คนแรก MITนะครับ นีล อาร์มสตรอง นั่นคือรุ่นพี่MIT มีผู้นำโลก โคฟี่ อันนัม ท่านก็จบMIT โนเบิ้ลไพรซ์ เยอะแยะไปหมด แต่พี่เป็นโนบอดี้ ก็ดูเกรดเฉลี่ยสิห่วยมาก ภาษาอังกฤษติดดิน แต่ว่าไอมีความตั้งใจจริง ที่จะขอไปเรียนที่MIT
เรื่องการออกแบบรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อจะกลับมาทำที่ประเทศไทย
และเป็นคนนำรอยยิ้มกลับสู่ประเทศไทย MIT รับทันที
MIT พรินซ์ตัน เยล หรือบริษัทระดับโลก ไม่ดูคนที่เกรดเฉลี่ย แต่ดูคนที่หัวใจ ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงโลก สุดท้ายพี่เข้าMITได้ และเป็นคนไทยอันดับที่33 คนเดียวที่เข้าMITได้ในยุคนั้น
ถาม:พี่เอ้ไปเรียนMITมันต่างอะไรกับลาดกระบัง
ตอบ:ม.เราใหญ่กว่าเยอะ แคมปัสเขาเล็กกว่าเรา3 เท่า ตึกไม่ได้ใหญ่โตวิเศษวิโส ...ในโลกตะวันตกเขาไม่สอนอย่างเรา แยกศาสตร์กับศิลป์
เขาสอนเด็กเล็กๆว่าศาสตร์กับศิลป์คือเรื่องเดียวกัน(36:56)
ถาม:เรื่องศาสตร์กับศิลป์มันจึงขาดกันไม่ได้ มันต้องมีอยู่ในตัวมนุษย์
พี่เอ้ ศ.ดร.สุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีม.จล
https://youtu.be/65I82vg4AK4
********************
จะตั้งใจเรียน จะได้มีงาน มีเงินเลี้ยงตัวเอง
เดินอย่างไม่ออกนอกลู่นอกทาง ตั้งใจเรียนมากๆ
จนจบม.6 มีคนมาบอกทาง เนี่ยะถ้าขึ้นไปทางนี้นะ
มันจะยากกว่าเส้นทางปกตินิดหน่อย สนใจไปไหม
มันอาจจะเข้าใกล้ยอดเขาได้มากกว่านะ
ตอนนั้นเราได้รับโมเดลลิ่งเข้ามาติดต่อ ให้ไปแคสโฆษณา
จากเด็กผู้หญิงเด๋อๆที่ไม่รู้อะไรเลย ตกลงไปแคสโฆษณา
เขาให้ทำอะไรเราก็ทำ เต้น ร้อง จนเราได้โฆษณาตัวนี้ อย่างงงฟลุ๊คๆ
นี่เป็นโฆษณาชิ้นแรกและได้เงินก้อนแรก มาจ่ายค่าเทอมๆแรกในม.
โอเคเราจะเลือกเส้นทางนี้ เรียนไปด้วยถ่ายโฆษณาไปด้วย
เพื่อที่ว่าเราจะได้หาเงินมาดูแลตัวเองได้ ตัวที่หนึ่งมันได้แล้ว
มันไม่ยากอะไรหรอก แคสตัวที่2-10 ไม่ได้เลย จากที่มั่นใจก็เริ่มท้อ
มันยากจริงๆ...ตัว12ได้...อีก10ตัวได้ มันเหมือนกับเราได้สะสมเสบียง
แต่ก็คิดว่าไม่เอาแล้ว รีบเรียนให้จบ ไปใช้ชีวิตปกติ
แต่ใกล้ๆกัน มีทางอีกทางหนึ่ง ชันกว่า ต้นไม้รกกว่า มองไปแล้ว
มันเข้าใกล้ยอดเขาที่เราจะไปมากขึ้น เราจะไปดีไหมหนอ
บังเอิญโฆษณาที่ออนแอร์ไป ได้รับผลดีเกินคลาด
ช่อง3ติดต่อมาให้มาเป็นนักแสดงในสังกัด
คราวนี้เริ่มจริงจังมากขึ้น จากรับงานเป็นจ็อบๆ จึงไปปรึกษาหลายคน
ยังจำคำพูดของอ.ที่ปรึกษา:ผมเสียดายเกรดคุณมากเลยนะ จบได้งาน
สต๊าทเงินเดือน2-3หมื่น แต่นั่นอีก2ปี นี่โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว
แล้วเราจะยังไงล่ะ สุดท้ายก็ทำ
แต่แอบคิดกับตัวเองว่า ยังไงก็ต้องเรียนให้จบนะ มีคนพูดเหมือนกันว่า เข้าวงการแล้ว เรียนไม่จบ
อุปสรรคเยอะใช่ไหม เราต้องเรียนแอคติ้ง สลับกับเรียนหนังสือในม.
ทำอย่างนี้3เดือน จนวันเปิดกล้อง อยากถ่ายแล้ว ร้อนวิชา
วันแรกร้องไห้ไม่ได้เลย อะไรกันนี่ อุตส่าห์เรียนแอคติ้ง3เดือน
เอาเข้าจริงความกดดันมันสูงมากหน้าเซ็ท กับในคลาสต่างกันมาก
เป็นการถ่ายทำ3เดือนที่เครียดมาก ร้องไห้กับรูมเมท ไม่ไหวแล้ว
จะกลับไปเป็นเด็กปี3,4 จะได้ไหม มันเหมือนกับอายจับกิ่งไม้ ห้อย
แล้วหันไปมองทางที่ผ่านมา มันไกลเกินกว่าที่เราจะลงไปแล้ว ลงไม่ได้
เราต้องไปต่อ หันไปมองยอด มันก็อีกนิดจริงๆ
คือทุกวันที่เราเดินมา มันใกล้ยอดเข้าไปเรื่อยๆ ก็เลยฮึดกับตัวเอง
โอเคเราต้องทำ มองหาว่าตรงไหนจะปลอดภัย เราจะต้องเหยียบหินก้อนไหน จะไม่ล่วงลงไป ปลอดภัยให้เรายืนพัก เวลาเราเหนื่อย
คือเราพยายามปรับสมดุลระหว่างเรียนกับทำงาน
จนวัหนึ่งเราเก็ทแล้วว่า การแสดงคือแบบนี้
การแสดงไม่ใช่การท่องบทเก่ง เรามุ่งหน้าของเราไปค่ะ เรียนหนังสือไปด้วย จนวันละครออนแอร์ ซึ่งไม่กล้าคาดหวังอะไรทั้งสิ้น
ฟีดแบ็คดีเกินคาด ใจชื้น แล้วมีงานเข้ามาตลอด6ปีที่ทำงานวงการบันเทิง บวกกับเราเรียนหนังสือจบ เพราะมีเพื่อนดีๆพากันเรียน
มีโบนัสเกียรตินิยมอันดับ1ให้พ่อแม่ภูมิใจด้วย
14:24 เราขึ้นถึงยอดเขาแล้วจริงๆด้วย เรามีโมเม้นที่เราท้อ
ข้างบนลมมันเย็นจริงๆแฮะ สบาย สบายมากเลย
ภาพความฝันสมัยเป็นเด็กหญิงกับภาพความจริง มันซ้อนเป็นอันเดียวกัน
กมลเนตร เรืองศรี นักแสดง
https://youtu.be/Z5h5MgyUJao
**********************************
เปอร์:นี่เด็กโอลิมปิก
ตอบ:ใช่ๆ เป็นคนที่ถนัดสายคอมพิวเตอร์เชิงลึก อย่างอื่นเราไม่เอาไง
ในขณะที่เราเรียนตอมพิวเตอร์ เขียนโปรแกรม เราเรียนไปเพื่ออะไร...
เรียนยังไม่จบ หาเงินได้แล้ว
(33:42) อนาคตเราอาจจะไม่ต้องมีรร. มหาวิทยาลัย
อาจจะไม่ต้องทำข้อสอบแบบนั้นก็ได้นะ
เปอร์: อยากรู้อะไรsearchเอา
ตอบ:เออ ความรู้มันมีอยู่ทั่วไปบนอินเตอร์เน็ต
เปอร์:แล้วมนุษย์จะต่างกันยังไง
ตอบ:ต่างกันตรงคุณเอาความรู้ที่มี ไปพัฒนาต่อยอดได้แค่ไหน ไปสร้างคุณค่า มูลค่าเพิ่มได้แค่ไหน
บอย อภิศิลป์ ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บพันทิป
https://youtu.be/hnmcFYlbS4Y
2:54 การจะเกิดปัญญาได้ มันจะต้องมีคำว่านิ่ง สติ สมาธิ แล้วถึงจะเกิดปัญญา
4:54 การเปิดหนังสือ(ดู)มากเกินไป พี่ก็กลัวจะไปเกาะเขา มาจากตัวเราดีไหม พี่จะเอาหลอดสีมานั่งจัดให้เข้ากัน เข้ากันจากตัวเรา บางคนอาจจะมองว่า สีไม่เข้ากัน พอสีเข้ากัน เราก็เริ่มมีอยู่ในหัว ว่ารูปเราจะใช้สีอะไร
36:39 ถาม:การเอาชนะความกลัวทำยังไง
ตอบ:ทำเลย ไม่ต้องคิดอะไร ้เริ่มเลย ลองเลย แต่ถ้ามีอะไรจะเสียเยอะ ก็คิดแผนคิดอะไร สุดท้ายก็ต้องทำอยู่ดี...ความกลัวมันเกิดจาก เราไม่รู้ฝีมือเราจะถึงจุดที่เราอยากจะมองไว้หรือเปล่า เราต้องพัฒนาตัวเอง แล้วมันเป็นตัวเรานั่นแหละ ที่จะต้องทำมัน เราต้องทำได้
37:28 ถาม:ต่อให้กลัวก็ทำมันอยู่ดี
ตอบ:แน่นอน...
ถาม:ทำได้ไม่ได้ไม่รู้นะ แต่ขอให้ลองไว้ก่อน ทำไว้ก่อน
ตอบ:ใช่
ปอมชาน นักศิลปะ
https://youtu.be/CwA9CTqYXSs
***************************
ติ๊กเจษฎาภรณ์ ลองใช้ชีวิตเป็นคนพิการขา3วัน
ปรัชญาของรร.อาชีวะพระมหาไถ่ ฟื้นฟูสมรรถภาพชีวิตและพัฒนาสังคม
นร.ต้องช่วยเหลือตัวเองได้ก่อน เป็นอันดับแรก
(หลวงปู่“ตัวเองยังว่ายน้ำไม่เป็น จะไปช่วยคนอื่น“
ความสุขของคนพิการคือตอนนอน มันเหมือนกับได้ปลดปล่อย ความเครียด
https://youtu.be/GFn7I6H5lSk
*******************
ไปเที่ยวเดินเล่น คิดดีๆกับมุมมองใหม่ ชีวิตดี๊ดี
*******************
ลุงแดงตาพิการแต่เกิด ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ สู้ชีวิต มองบวกทุกอย่าง
เล่นดนตรีกับวงเพื่อน ให้ความสุขคนรอบข้าง
รายการซุปเปอร์60 เพลงซ่อนกลิ่น
https://youtu.be/v0ZmYLF2llA
*******************
ขึ้นอยู่กับเรา จะเลือกมุมมองชีวิตยังไง
● เศรษฐีคนหนึ่งมองผ่านหน้าต่างและเห็นคนเก็บขยะคุ้ยหาขยะไปขาย
...เขาอุทานกับตัวเองว่า...
"ช่างโชคดีจริงๆ ที่เราเกิดมารวย"
● คนเก็บขยะมองไปรอบ ๆ และเห็นคนแก้ผ้าล่อนจ้อนอยู่บนถนน
...เขาอุทานกับตัวเองว่า
"เราโชคดีแล้วที่ไม่ได้บ้า"
● คนบ้ามองเห็นรถพยาบาลวิ่งพาคนป่วยกำลังไปโรงพยาบาล
...เขาอุทานกับตัวเองว่า
"เราช่างโชคดีเหลือเกินที่ยังไม่ป่วย"
● จากนั้นคนป่วยในโรงพยาบาลเห็นพยาบาลกำลังเข็นศพ นำไปเข้าโรงเย็น
...เขาอุทานกับตัวเองว่า
"เราโชคดีเหลือเกินที่ยังไม่ตาย"
■ คนตายเท่านั้นที่ไม่ต้องใช้โชค
● ทำไม...คุณไม่มองที่ความโชคดีของคุณที่มีอยู่ตอนนี้...ว่าเป็นเหมือนของขวัญและวันที่สวยงามของชีวิต
◇ ชีวิตคืออะไร?
คุณอาจจะเข้าใจดี ถ้าได้อยู่ในสถานที่ทั้งสามแห่งนี้
1. โรงพยาบาล
2. คุก
3. หลุมศพ
● ที่โรงพยาบาลคุณจะเข้าใจได้ว่า...ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่า "สุขภาพดี"
■ ในคุกคุณจะเห็นว่า...
"อิสรภาพ" เป็นสิ่งล้ำค่าขนาดไหน
■ ที่หลุมศพคุณจะรู้ว่า...
ชีวิตไม่มีค่าอะไรเลย
พื้นดินที่เราเดินวันนี้
อาจจะเป็นหลังคาของเราในวันพรุ่งนี้ก็ได้
● ความจริงที่น่าเศร้าก็คือ...เราทุกคนมาตัวเปล่า
และเราจะจากโลกไปตัวเปล่าเช่นกัน
♡ ขอให้เราจงอ่อนน้อมถ่อมตนและขอบคุณกับความโชคดีทุกอย่างที่เรามี ในทุกๆ วันกันเถอะ ♡
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2235384699910477&id=303877426394557
100faceshttp://innoinspirebynia.com/face087/
นายแดงนายเขียว
!!!!!!
มุมมองของผู้ถูกเจ้ากรรมนายเวรกระทำ
http://youtu.be/hooPIQ68GIc
มุมมองทางฝ่ายเจ้ากรรมนายเวร จากเพลงรักไม่มีวันตาย
http://youtu.be/_P321ca4npc
*******************
ไปเที่ยวเดินเล่น คิดดีๆกับมุมมองใหม่ ชีวิตดี๊ดี
*******************
ลุงแดงตาพิการแต่เกิด ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ สู้ชีวิต มองบวกทุกอย่าง
เล่นดนตรีกับวงเพื่อน ให้ความสุขคนรอบข้าง
รายการซุปเปอร์60 เพลงซ่อนกลิ่น
https://youtu.be/v0ZmYLF2llA
*******************
ขึ้นอยู่กับเรา จะเลือกมุมมองชีวิตยังไง
● เศรษฐีคนหนึ่งมองผ่านหน้าต่างและเห็นคนเก็บขยะคุ้ยหาขยะไปขาย
...เขาอุทานกับตัวเองว่า...
"ช่างโชคดีจริงๆ ที่เราเกิดมารวย"
● คนเก็บขยะมองไปรอบ ๆ และเห็นคนแก้ผ้าล่อนจ้อนอยู่บนถนน
...เขาอุทานกับตัวเองว่า
"เราโชคดีแล้วที่ไม่ได้บ้า"
● คนบ้ามองเห็นรถพยาบาลวิ่งพาคนป่วยกำลังไปโรงพยาบาล
...เขาอุทานกับตัวเองว่า
"เราช่างโชคดีเหลือเกินที่ยังไม่ป่วย"
● จากนั้นคนป่วยในโรงพยาบาลเห็นพยาบาลกำลังเข็นศพ นำไปเข้าโรงเย็น
...เขาอุทานกับตัวเองว่า
"เราโชคดีเหลือเกินที่ยังไม่ตาย"
■ คนตายเท่านั้นที่ไม่ต้องใช้โชค
● ทำไม...คุณไม่มองที่ความโชคดีของคุณที่มีอยู่ตอนนี้...ว่าเป็นเหมือนของขวัญและวันที่สวยงามของชีวิต
◇ ชีวิตคืออะไร?
คุณอาจจะเข้าใจดี ถ้าได้อยู่ในสถานที่ทั้งสามแห่งนี้
1. โรงพยาบาล
2. คุก
3. หลุมศพ
● ที่โรงพยาบาลคุณจะเข้าใจได้ว่า...ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่า "สุขภาพดี"
■ ในคุกคุณจะเห็นว่า...
"อิสรภาพ" เป็นสิ่งล้ำค่าขนาดไหน
■ ที่หลุมศพคุณจะรู้ว่า...
ชีวิตไม่มีค่าอะไรเลย
พื้นดินที่เราเดินวันนี้
อาจจะเป็นหลังคาของเราในวันพรุ่งนี้ก็ได้
● ความจริงที่น่าเศร้าก็คือ...เราทุกคนมาตัวเปล่า
และเราจะจากโลกไปตัวเปล่าเช่นกัน
♡ ขอให้เราจงอ่อนน้อมถ่อมตนและขอบคุณกับความโชคดีทุกอย่างที่เรามี ในทุกๆ วันกันเถอะ ♡
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2235384699910477&id=303877426394557
100faceshttp://innoinspirebynia.com/face087/
*
*
*
*
*
*
*
เป็นยังไงกันบ้างครับ ถูกใจกันบ้างหรือเปล่า ถ้าอยากอ่านทั้งเล่ม ก็ลองติดต่อขอไปที่ กองทุนสื่อธรรมะทอสี (www.thawsrischool.com) หรือ มูลนิธิปัญญาประทีป (www.panyaprateep.org) เล่มนี้ไม่มีขาย เขาพิมพ์แจกเป็นธรรมทาน
http://oknation.nationtv.tv/blog/chaiyospun/2010/01/07/entry-2นายแดงนายเขียว
!!!!!!
มุมมองของผู้ถูกเจ้ากรรมนายเวรกระทำ
http://youtu.be/hooPIQ68GIc
มุมมองทางฝ่ายเจ้ากรรมนายเวร จากเพลงรักไม่มีวันตาย
http://youtu.be/_P321ca4npc
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น