https://youtu.be/317fhUBi65I
12:12 พัฒนาตัวเอง เรียนนวด เรียนภาษาอังกฤษ หลังเลิกงานจ,พ,ศ จากเขาหลักพังงา นั่งรถบัส ไปเรียนที่ภูเก็ต มันเริ่มเพิ่มขึ้น เราเริ่มสื่อสารแนะนำลูกค้าได้ เช่น คนที่ไม่เคยนวด เราก็แนะนำเบาๆก่อน
ชาวต่างชาติกับคนไทย นวดจะแตกต่างกัน สรีระตัวเขาจะแข็งกว่า เพราะเขานั่งเก้าอี้ ไม่นั่งขัดสมาธิเหมือนเรา ไม่มีการยืดหยุ่นเหมือนเรา
ฉะนั้นเราไปดัดไปยืดอะไรปึ๊บๆ ไม่ได้
ถาม:ได้ความคิดนี้มาจากไหนว่า ต้นทุนเราไม่เท่าคนอื่น เราต้องฝึกหนักมากกว่าคนอื่น
ตอบ:เป็นตั้งแต่เด็กๆ บ้านเราอด บ้านเราลำบาก บ้านเราจน ในบ้านไม่มีอะไรเลย นอนใช้ตะเกียง อยู่กับคุณยาย ไปรร.ต้องเดินไป2กิโล ก็ต้องอดทน ไปหาบน้ำ กินน้ำบ่อ ถ้าหากเราอยากได้ชีวิตที่มีคุณภาพ เราก็ต้องพยายาม
ทุกวันนี้พี่ปุ๊ก็ยังต้องเรียนเพิ่ม มันมีเทคนิคพิเศษอะไรๆเพิ่มขึ้น
เริ่มมองตัวเองว่าจะมีรายได้เพิ่ม ถ้าอยู่ที่เดิม จากโรงแรมที่เป็นของคนไทย เริ่มไปสมัครโรงแรมเลอเมอริเดียนที่เป็นของฝรั่งดู
แต่ไม่ผ่าน เพราะต้องมีวุฒิการศึกษาอย่างต่ำปวส. พี่จบม.3 เขาก็ไม่รับ แต่ก็กลับไปสมัครที่เดิมอีกนั่นแหละ จนเขาให้ลองทำ เพราะเห็นความพยายามของเรา ไหนลองนวดดูซิ นวดได้หรือเปล่า
ถาม:พอได้เริ่มนวดโรงแรมฝรั่ง ชีวิตเปลี่ยนไปไหม
ตอบ:เปลี่ยนไป เท่าตัว เงินเดือนจาก2-3หมื่น เป็นใกล้เคียง6หมื่นบาท
เทรนเนอร์คุณจิล ร็อบสันจากอังกฤษถามว่า
เธออยากจะมาเป็นเทนเนอร์ไหม เพราะเธอเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นและพยายาม
ถาม:นักสปาบำบัดต่างจากพนักงานนวดอย่างไร
ตอบ:จะมีเสริมสวย ความงามเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำหน้า ทำนวด ทำเล็บมือเล็บเท้าได้ นั่นคือเราทำบำบัดให้ลูกค้าได้
คราวนี้มีเหตุให้เราอยู่ตรงนั้นไม่ได้ จึงได้มาอยู่ที่ใหม่สะโรจิน อยู่เขาหลักเหมือนกัน ในตำแหน่งรีเซฟชั่นนิส ไม่ต้องนวด แต่มาจัดการบุ๊กกิ้ง
เพราะเราอยากรู้ในระบบสปาต้องทำอะไรบ้าง
ถาม:เพื่ออะไร
ตอบ:เราอยากรู้ว่าเรารักอะไร ชอบอะไรจริงๆ สุดท้ายรู้ว่าเรารักนวด
ก็อยู่ที่สะโรจิน ตอนนั้นซึนามิ ต้องวิ่งขึ้นเขา โชคดี(=ตัวช่วยคือบุญ)
วันนั้นอยู่หอพัก ห่างไป2-3กิโลไม่ติดหาด ไม่มีงานทำ
ถาม:เหตุการณ์ซึนามิ เป็นยังไงในวันนั้น
ตอบ:ได้ยินเสียงคนที่วิ่งมาจากหาดเป็นชุดเลย เลือดเต็มตัว ถามเขาว่าเป็นอะไร
เขาบอกคลื่นยักษ์ๆ บอกเขาวิ่ง แล้วก็วิ่งไปกับเขา วันนั้นวันอาทิตย์ วิ่งทั้งชุดนอน วันรุ่งขึ้นไปดูโรงแรมที่ทำงาน เห็นแต่ศพ
ถาม:กลัวไหม
ตอบ:ศพมันเยอะจนเราหายกลัว มันปลง แขนขาอยู่คนละส่วน โห้นี่ละนะชีวิต
ถาม:ตกงาน
ตอบ:ตกงาน แต่โชคดีโรงแรมไม่ทิ้ง ให้เงินเดือนพนักงานทุกคนเหมือนเดิม ให้เราไปอบรมที่ภูเก็ต เราได้กลับมาอยู่ภูเก็ตอีกครั้งจนกว่าโรงแรมจะสร้างเสร็จ
ถาม:ตัดสินใจไปเกาหลี รายได้พอไหม
ตอบ:ได้พอระดับหนึ่ง ตอนนั้นอยากเที่ยว อยากได้ประสบการณ์ เราไม่เคยไปเมืองนอก กลับไทยไปอินเดีย
ถาม:ไปทำอะไร
ตอบ:ไปเป็นสปาแมนเนเจอร์ ต้องดูฟิตเนส ดูสระว่ายน้ำให้เขาด้วย
แต่อยู่ไม่ได้จริงๆ ทานอาหารเขาไม่ได้ จึงกลับมาเจเจมารือ็อต
ได้กลับมาที่นี่ เพราะเป็นที่แรกที่ให้อาชีพ ได้ซื้อบ้านที่นี่ ได้ไปสมัครที่เจเจมารือ็อต ทำอยู่4-5ปี ตอนนั้นสปาแมนเนเจอร์ตั้งครรถ์ ย้ายกลับ
เราได้เป็นสปาแมนเนเจอร์ จากพนักงาน4-5คน ผลักดันจนมีพนักงาน
24-25คน เราต้องไปรับรางวัลพนักงานดีเด่นของมารือ็อตทั่วโลกที่สหรัฐ จากมารีอ็อต4,000-5,000แห่ง ตำแหน่งสุดท้ายที่นี่คือไดเร็คเตอร์
ถาม:เขาเช็คจากอะไร
ตอบ:จากรายได้ ตามเป้าหรือไม่ เราควบคุมงบประมาณไม่ให้เกิน และความพึงพอใจของลูกค้าติด1-3ของสปาเอเชียแปซิฟิค และความพึงพอใจของเพื่อนพนักงาน เขาโอเคกับเราหรือเปล่า
ถาม:ทำไมถึงย้ายครอบครัวไปเมืองนอก
ตอบ:แต่งงานมีลูก อยากให้ลูกได้เรียนหนังสือดีๆ เพราะเราตอนเด็ก ครอบครัวไม่โอเค
ถาม:ทุกวันนี้เจเจมารือ็อตยังอยู่ไหม เราไปดูได้ไหม
ตอบ:ยังอยู่ ได้ค่ะ
ที่สปาเจเจมารือ็อตพบเพื่อนเก่าร้องไห้กันทั้งพี่ปุ๊และเพื่อน
ถาม:ลองให้พี่ปุ๊ทำได้ไหม
ตอบ:ได้ค่ะ เริ่มจากเช็คประวัติลูกค้า ว่ามีปัญหาสุขภาพอะไรหรือเปล่า
เวลานวดจะไม่พูดกับลูกค้าหรือพูดให้น้อยที่สุด เช่นอุณหภูมิห้อง
เปอร์ลองให้พี่ปุ๊นวด ถ้าค่านวดที่เยอรมันกว่า4,000บาทเป็นหลัก100ยูโร และต้องเข้าคิว3-4เดือน
ถาม:เรารู้ได้เลยไหมว่าลูกค้ามีอาการอะไรมา
ตอบ:ส่วนใหญ่เราจะสัมผัสได้ ว่าเขามีอาการกล้ามเนื้อตึง เรานวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แต่การรักษาจะเป็นอีกแบบหนึ่ง กดจุด
ถาม:วันแรกที่นวดกับวันนี้ การนวดต่างกันยังไง
ตอบ:วันแรกเราจะนวดตามสเต็ปที่เทรนเนอร์สอน เราไม่เข้าใจ เราทำลงไปตามท่าเฉยๆ แต่วันนี้เรารู้ว่ากล้ามเนื้อนี้ เราควรจะนวดลงหนักลงเบา น้ำหนักที่นวดจะแตกต่างกันออกไป
(เรา:ได้คำตอบให้ตัวเราเรื่องเดินจงกรมและสวดมนต์ที่วัดนี้วันแรกกับวันนี้ไม่เหมือนกัน วันนี้ทำแล้วเข้าไปในจิตวิญญาณ ไม่ใช่ท่า ไม่ใช่เครื่องแต่งกาย)
ถาม:ไปเยอรมันมีแผนจะทำอะไร
ตอบ:ก่อนอื่นต้องเรียนภาษาเค้าก่อน ไปแรกๆเป็นใบ้เลย
ว่างงาน4เดือน ก็จูงลูกไปเดินหางาน ได้งานคอสเมติก ขายเครื่องสำอางและทำทรีทเมนในร้านเล็กๆ
ถาม:ค่าตอบแทนสู้ตอนอยู่เมืองไทยได้ไหม อยากกลับไหม
ตอบ:ไม่ได้ ตอนนั้นก็อยากกลับเนอะ แต่มันก็กลับไม่ได้ จึงต้องเปลี่ยนมุมมองเรา(=เปอร์สเปคทีฟ) เรามาแล้ว เราก็ต้องสู้ต่อ
ถาม:เข้าประกวดชิงแชมป์โลกได้ยังไง
ตอบ:เราเล่นเฟซไปอ่านเจอ มันน่าสนใจ อยากไปเข้าร่วมประกวด
ถาม:เกี่ยวไหมกับเราอยากจะหารายได้เพิ่ม
ตอบ:เกี่ยว ส่วนหนึ่ง ปีที่แล้วที่เข้าประกวด กว่า100ชีวิตจาก30ประเทศทั่วโลก
ถาม:มีคนไทยไปเยอะไหม
ตอบ:5คน ตอนลงแข่งฟรีสไตล์กับเอเชี่ยนสไตล์ เขาจะดูท่าทางการนวดของเรามันถูกต้องตามหลักกายวิภาคศาสตร์ของเขาหรือเปล่า
ถาม:การได้เป็นแชมป์โลกอปลว่าการนวดแบบไทยเป็นแชมป์ด้วย
ตอบ:ใช่ ถูกต้อง ทุกวันนี้ที่ทำ พี่เขาย้ายไป จึงได้ไปเป็นสปาแมนเนเจอร์ ดูแลส่วนของเวลเนส(=สุขภาพ) บริหารร่างกาย นั่งสมาธิ
ถาม:รายได้สู้ที่นี่ได้ มากกว่าที่นี่
ตอบ:ก็โอเคแล้ว
หลวงปู่สอนว่า
พิจารณาตามไปด้วย จะทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ ทำไปเลย จะทำเดี๋ยวนี้
จะรักษาศีล ทำไปเลย เวลาเหลือน้อย
ศ.9ก.ย59
ทบทวนดูก่อน คือพอจะทำได้ไหม
ทำไม่ได้ ไม่ต้องทำ
ศ.9ก.ย59
ทำสิ่งที่ทำแจ้งหยุด จะทำสิ่งที่ยังไม่เคยทำ
ศ.9ก.ย59วันพระ
สิ่งที่ทำแล้ว หยุด จะทำสิ่งที่ยังไม่เคยทำ
ศ.9ก.ย.59
เดี๋ยวมันก็มีกรรมเก่ามา ให้ทำไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดว่า จะได้อะไร เอาว่าให้ได้กลับมาเป็นมนุษย์อีก หรือมีชีวิตเท่ากับที่เป็นอยู่ตอนนี้“
“ให้ปฏิบัติตามเส้นทาง ก็ดูอยู่...
พฤ.12 พ.ค.59ทำไปเรื่อยๆ จะได้เร็วหรือช้า ก็ต้องทำเรื่อยๆ อย่าไปคาดหมาย จะไปกดดันตัวเอง
พฤ.12 พ.ค.59
ทำไปเรื่อยๆ ไม่กดดันตัวเอง ต้องอย่างนั้น อย่างนี้ เสร็จตอนนั้น ตอนนี้ วางไว้ว่าจะให้ได้โสดาบัน ไม่มีทาง“
28/พ.11พ.ค.59(นั่งดูเราฝึกภาวนาตลอดบ่ายพฤ.12 พ.ค.59)
“ให้ทำไปเรื่อยๆ แม้จะไม่ได้ 100% จะอยู่สบาย“
24/พฤ.16 ก.ค.58(วันเกิดหลวงปู่73ปี)
“ทำนะยังมีชีวิตอยู่“
27/ศ.8-อา.10 เม.ย.59(พบแอตต้า หัวหน้า อาร์ม)
ให้พยายามทำ
13/พฤ.5มิย.57(ตา เรา วันพระ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น