วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ยายยิ้ม
ยายยิ้ม คนต้นเรื่องในความทรงจำ
https://youtu.be/9nqX_bDxsA8
ยายยิ้มเย้ยยาก
ตอนที่1 https://youtu.be/GgPykakqU1k
ตอนที่2 https://youtu.be/4m6ka2GU2OA
วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ชีวิตไม่ได้มีทางเดินเพียงทางเดียว
นิติ ชัยชิตาทร ผู้ค้นพบ ความภาคภูมิใจตัวตน
http://innoinspirebynia.com/face087/
http://innoinspirebynia.com/face087/
“คนเรานิยามตัวเองว่าเป็นอะไร มันไม่ได้นิยามจากสิ่งที่เราอยาก มันก็ต้องนิยามจากสิ่งที่เราทำ เราอยากเป็นนักเขียน เราก็เป็นนักเขียนได้ ถ้าเราได้เขียน”
เราเป็นใคร? คือคำถามที่มีคำตอบให้ตัวเองอย่างชัดเจนเสมอ สำหรับ ป๋อมแป๋ม นิติ ชัยชิตาทรโปรดิวเซอร์และพิธีกรอารมณ์ดีที่ดังเป็นพลุแตกกับรายการท่องเที่ยวแหวกแนวสุดฮาอย่างเทยเที่ยวไทย
คาแรกเตอร์ของป๋อมแป๋มสร้างเสียงหัวเราะและสีสันให้กับวงการโทรทัศน์ที่เรียกได้ว่าสุดจริง ๆ จนสามารถผุดรายการเดี่ยวที่มีคนติดตามเป็น ล้านคน อย่าง Talk-กะ-เทย Tonight และต่อปากต่อคำติดไฟแดง
ป๋อมแป๋มสร้างผลงานจากตัวตนจนเป็นที่ยอมรับทั้งในไอเดียสร้างสรรค์ รวมถึงมุมมองและวิธีคิด มากกว่าแค่ความตลกโปกฮาของเพศที่สาม เขาเปิดมุมมองสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับภาพจำเก่าๆ ที่ว่ากระเทยคือตัวตลกให้มีพื้นที่ที่ควรให้ค่า และไปไกลถึงขั้นที่ทำให้ครอบครัวคนรอบข้างรับรู้และเริ่มเรียนรู้ได้ว่าจะเข้าใจพวกเธออย่างไร
ความชัดเจนกับตัวเองและมีความสุขกับชีวิต เปลี่ยนเรื่องหงุดหงิดให้เป็นอารมณ์ขัน คือตัวตนที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนมากมาย อยากค้นพบ รัก และภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นได้อย่างเธอ ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่ในวงของคนที่ถูกเรียกว่ากระเทย
“ก่อนที่เราจะไปโวยวายว่าอันนี้ไม่ดี อันโน้นไม่ดี จนทำให้เราหงุดหงิด เราต้องคิดก่อนว่าเราจะรับมือกับปัญหานั้นอย่างไร เราจึงเป็นคนที่ไม่ค่อย ทุกข์โศก ร้องไห้น้อยลง โกรธใครก็จะหายโกรธเร็วมาก ความคิดแบบนี้มันทำให้เราเป็นคนไม่เกลียดโลกและมองเห็นความสวยงามได้ง่ายขึ้น”
“บางครั้งถ้าเรารู้จักบิดตัวเองเข้าหาแสง เราอาจจะพบศักยภาพ ที่มันสวยงาม ที่มันยิ่งใหญ่ ที่มันเจ๋งมาก แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าเรามี เพราะมันแค่ซ่อนอยู่ในความมืดเท่านั้นเอง” ป๋อมแป๋ม
พลิกมุมคิดชีวิตจะดีขึ้น https://youtu.be/T9R4sZrvGd0
ครูตีน่า เป็น Classroom teacher หรือครูประจำชั้นของห้องเรียนฟินแลนด์มากว่า 25 ปี
เธอบอกว่า ธงทุกวันไม่ได้อยู่ที่เกรด A, B หรือ C แต่คือการที่เด็กๆ บอกว่า "หนูอยากมาโรงเรียนทุกๆ วันเลย"
“เด็กทุกคนไม่มีทางเหมือนกัน ถ้าวัดตามอเมริกา เด็กมีทุกระดับ A B C D มีเด็ก A และเราก็ต้องผลักดันเขาไปให้ถึงระดับ A ส่วนเด็ก D เราก็ต้องเข้าใจด้วยว่า เขาไม่สามารถทำได้มากกว่านี้แล้ว ตรงนี้ต่างหาก ที่เราต้องหาวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างให้เขา และยอมรับมันให้ได้ ทั้งครู พ่อแม่ และเด็ก มันคือวิธีที่ดีที่สุดแล้ว”
สำหรับตีน่า การตั้งเป้าหมายเดียวกันให้เด็กๆ ทุกคน คือความผิดพลาดอันเลวร้าย การทำทุกวิถีทางเพื่อให้เด็กๆ ได้เกรด A คือเรื่องไร้สาระ
นี่คือความคิดของคุณครูประจำชั้นจากฟินแลนด์ >>> http://waymagazine.org/finnish_classroom_teacher/
https://vimeo.com/114180124
นายแบบอายุ80
https://youtu.be/GY1r6RrBGkc
รายการบุญนิยมทีวีถึงสื่อถึงคน ลูกสาวเคยเป็นพยาบาล แต่ทำงานไม่มีความสุข กลับมาช่วยแม่ปลูกผัก
อย่าเพิ่งพิพากษาใคร
**************************************************************
**********************************************************
**********************************************************
ครูอุ๊เล่าชีวิตตอนเด็ก“(05:17) เหมือนครูถูกตัดสินตีตราไปเรียบร้อยแล้ว
ไอ้เด็กคนนี้มันไม่เก่ง ทำอะไรไม่ได้หรอก ถูกกระทำซ้ำๆ จนครูเชื่อ
ใช่ เราทำไม่ได้หรอก เราดีไม่ได้หรอก เราเก่งไม่ได้หรอก เราได้แค่นี้แหละ ความรู้สึกเชื่อมั่นในตัวครู ถดถอยลงทุกวัน เคยคิด ไม่ฮะ อยากจะเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ แต่อย่า อย่าคาดหวังเลย เราไม่ใช่คนเก่ง และหัวดีขนาดนั้น
นี่ไง นี่แหละ ความคิดของคน ที่ขาดศรัทธาในตัวเอง
อุไรวรรณ ศิวะกุล
https://youtu.be/XIVFyHU79J0
**********************************************************
ครูอุ๊เล่าชีวิตตอนเด็ก“(05:17) เหมือนครูถูกตัดสินตีตราไปเรียบร้อยแล้ว
ไอ้เด็กคนนี้มันไม่เก่ง ทำอะไรไม่ได้หรอก ถูกกระทำซ้ำๆ จนครูเชื่อ
ใช่ เราทำไม่ได้หรอก เราดีไม่ได้หรอก เราเก่งไม่ได้หรอก เราได้แค่นี้แหละ ความรู้สึกเชื่อมั่นในตัวครู ถดถอยลงทุกวัน เคยคิด ไม่ฮะ อยากจะเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ แต่อย่า อย่าคาดหวังเลย เราไม่ใช่คนเก่ง และหัวดีขนาดนั้น
นี่ไง นี่แหละ ความคิดของคน ที่ขาดศรัทธาในตัวเอง
อุไรวรรณ ศิวะกุล
https://youtu.be/XIVFyHU79J0
**********************************************************
ชมพู่ ก่อนบ่ายคลายเครียดเล่นเปียโนและร้องเพลงฝรั่ง ตั๊กศิริพรก็ร้องเพลงฝรั่งhttps://youtu.be/67yjfQog9ns
*************************************************************
“เมื่อมันมาถึงการแปะป้าย มันจะหาความต่างในเชิงลบเสมอ
เมื่อส่องไฟฉาย อย่าส่องตรงอย่างเดียว ส่องขึ้น ส่องลง ส่องไปรอบๆ“
https://youtu.be/48A9SU6_bQ8
*************************************************************
จากเว็บพูดไป2ไพเบี้ย ยิ่งเสียตำลึงทอง
ที่ร้านไอศกรีมแห่งหนึ่ง
ในขณะที่คนกำลังแน่นร้าน เด็กผู้หญิง
ท่าทางน่ารัก เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับสั่งไอศกรีม
"พี่ค่ะ อันนี้ราคาเท่าไหร่ค่ะ"
พนักงานเสริฟสาวตอบแบบห้วนๆว่า
"80 บาท"
เด็กผู้หญิงก้มลงไปนับเหรียญที่เธอกำมา สักครู่จึงกล่าวว่า
"เงินไม่พอ ขอลดไอติมลงลูกนึง ราคาเท่าไหร่ค่ะพี่"
พนักงานเสริฟ กระแทกเสียงด้วยความรำคาญกลับไปว่า
"70บาท ลดไม่ได้แล้วนะ!!"
เด็กผู้หญิง ยิ้มแล้วพูดว่า
"ขอบคุณค่ะ หนูเอาแบบ 70 บาทนี้ค่ะ"
เมื่อทานไอศกรีมเสร็จ เด็กผู้หญิงจึงเดินจากไปพร้อมเงิน
ที่วางอยู่บนโต๊ะ
พนักงานเสริฟกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง
สิ่งที่พนักงานเสริฟเห็นคือ เงินสองกองที่วางอยู่บนโต๊ะ
กองแรก เงิน 70 บาทวางอยุ่บนบิลค่าไอศกรีม
กองที่สอง เงิน 10 บาท วางอยู่บนกระดาษที่เขียนว่า
"เงินทิป 10 บาทของพี่นะค่ะ"
Everyone has their own story
อย่าตัดสินหนังสือเพียงเพราะหน้าปก เปิดอ่านสักนิด
มันอาจจะเป็นหนังสือที่ดีที่สุดในชีวิตคุณก็ได้
ในขณะที่คนกำลังแน่นร้าน เด็กผู้หญิง
ท่าทางน่ารัก เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับสั่งไอศกรีม
"พี่ค่ะ อันนี้ราคาเท่าไหร่ค่ะ"
พนักงานเสริฟสาวตอบแบบห้วนๆว่า
"80 บาท"
เด็กผู้หญิงก้มลงไปนับเหรียญที่เธอกำมา สักครู่จึงกล่าวว่า
"เงินไม่พอ ขอลดไอติมลงลูกนึง ราคาเท่าไหร่ค่ะพี่"
พนักงานเสริฟ กระแทกเสียงด้วยความรำคาญกลับไปว่า
"70บาท ลดไม่ได้แล้วนะ!!"
เด็กผู้หญิง ยิ้มแล้วพูดว่า
"ขอบคุณค่ะ หนูเอาแบบ 70 บาทนี้ค่ะ"
เมื่อทานไอศกรีมเสร็จ เด็กผู้หญิงจึงเดินจากไปพร้อมเงิน
ที่วางอยู่บนโต๊ะ
พนักงานเสริฟกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง
สิ่งที่พนักงานเสริฟเห็นคือ เงินสองกองที่วางอยู่บนโต๊ะ
กองแรก เงิน 70 บาทวางอยุ่บนบิลค่าไอศกรีม
กองที่สอง เงิน 10 บาท วางอยู่บนกระดาษที่เขียนว่า
"เงินทิป 10 บาทของพี่นะค่ะ"
Everyone has their own story
อย่าตัดสินหนังสือเพียงเพราะหน้าปก เปิดอ่านสักนิด
มันอาจจะเป็นหนังสือที่ดีที่สุดในชีวิตคุณก็ได้
ในทางโลกมีอะไรอีกมากที่ยังไม่รู้ เรียนกันไม่จบสิ้น คิดว่าเก่ง ก็ไม่ใช่ เพียงแต่เรายังไม่รู้จักคนเก่งกว่าแค่นั้น จะมาสรุปว่าเราเก่งกว่าใคร คิดมาก
ในทางธรรมเท่านั้นที่ใช้คำว่า“จบ“ได้ พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องหาคนมารับรอง
รู้ได้ด้วยตัวเอง
***************************************************************
เจ๊ดาหนังโฆษณาให้แง่คิด
***************************************************
**************************************************************************
ตัดสินว่าร้องเพี้ยนเพราะหน้าตาเหรอ
https://youtu.be/2k65GtVmmos
ชั่วฟ้าดินสลาย สัญญาใจ คนไหนบอก →ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน
คลิปเพลงโดยพลพลและเงาเสียง https://youtu.be/U3EkMFESc5A
ในทางโลกมีอะไรอีกมากที่ยังไม่รู้ เรียนกันไม่จบสิ้น คิดว่าเก่ง ก็ไม่ใช่ เพียงแต่เรายังไม่รู้จักคนเก่งกว่าแค่นั้น จะมาสรุปว่าเราเก่งกว่าใคร คิดมาก
ในทางธรรมเท่านั้นที่ใช้คำว่า“จบ“ได้ พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องหาคนมารับรอง
รู้ได้ด้วยตัวเอง
นศ.ปี 3 คณะเศรษฐศาสตร์ ม.กรุงเทพ เหมาะสมอย่างย่ิงกับคำว่า "เน็ตไอดอล" เนื่องจากเธอหารายได้ช่วงปิดเทอมด้วยการเป็น รปภ.วันละ12ชั่วโมง 465บาทที่ห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/984757
*****************************************************************************
"ด้ายสีขาว"บนเสื้อสีเขียว ที่สะกิดใจ
คนไข้หายใจหอบเหนื่อยมากมา 1 สัปดาห์ แต่เพิ่งมารพ.
พอตรวจร่่างกายก็พบว่าหอบจริง หอบมาก ถ้ามาช้ากว่านี้อาจจะต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
"แล้วทำไมคุณลุงเพิ่งมารพ. ล่ะ ถ้ามาช้ากว่านี้ ...
" บอย(หมอบอย)พูดไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
เพราะคิดและตัดสินเอาเองอย่างเร็วว่าคุณลุงควรมารพ.เร็วกว่านี้
แต่ยังพูดไม่ทันเสร็จ สายตาดันไปเหลือบเห็น ด้ายสีขาวบนเสื้อสีเขียว
ด้ายที่ทำให้ความหงุดหงิดของบอยค่อยๆหายไป
ก่อนที่คุณลุงพยายาพูดตอบกลับมาว่า
"ก็ลุงไม่มีรถและไม่มีเงินเหมารถคนอื่นให้มารพ.
ก็เลยทนอยู่บ้านเผื่อว่าจะดีขึ้น พอดีวันนี้ญาติมารพ.พอดีก็เลยถือโอกาสติดรถมาด้วย"
คำตอบของคุณลุงขยายความด้ายสีขาวที่เห็นด้วยตา
และขยายใจบอยให้เห็นที่มาของความหงุดหงิด
ใจที่มันเร็ว ไปตัดสิน และต่อว่าคุณลุงด้วยน้ำเสียงก่อนแล้ว ว่าทำไมไม่รู้จักดูแลตัวเอง
คงเป็นเพราะบอยให้ความสำคัญของโรคมากกว่าคน
จึงทำให้บอยตัดสินไปว่า ที่โรคมีอาการแย่เป็นเพราะคุณลุงมาช้า
ดังนั้นคุณลุงคือคนผิด คุณลุงคือคนที่ทำให้โรคมันแย่ลง (ทั้งๆที่่โรคไม่ควรจะแย่หากมารักษาเร็ว) จริงๆแล้วไม่ใช่ความผิดของคุณลุงที่ไม่ดูแลตัวเอง
แต่คงเป็นความผิดของบอยมากกว่าที่ไม่รู้จักคนไข้ ...
คนที่ยากจนและอยู่ไกล
เวลาเจ็บป่วยเขาก็มักจะมีแนวโน้มที่จะพยายามดูแลตัวเอง
ภายใต้ข้อจำกัดก่อน หากหนักไม่ไหวก็ค่อยมารพ.
เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ความธรรมดาบอยกลับมองข้ามไป
การรู้จักคนไข้ ยังนำไปสู่โอกาสพัฒนาระบบที่เอื้อให้คนกลุ่มนี้เข้าถึงรพ.ได้ง่าย
การให้คนไข้รู้ว่าเมื่อไหร่ควรมารพ.
รู้ว่าควรช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นอย่างไร
เป็นอีกครั้งที่บอยมุ่งรักษาโรค มากกว่ารักษาคน
"ด้ายสีขาว"บนเสื้อสีเขียว ที่สะกิดใจ
นี่แหละการให้บริการแก่ผู้ป่วยด้วยใจที่เหนือกว่ามาตรฐาน HA
https://m.facebook.com/photo.php?fbid=669079639800706&id=100000960286216&set=a.509003595808312.1073741825.100000960286216
****************************************************************************
อึ้ง
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1317838581633716&id=194640613953524
*****************************************************************************
อย่าตัดสินผู้อื่นเร็วเกินไป
เด็กหนุ่ม อายุ 24 ปี ทอดสายตามองไปที่หน้าต่างรถไฟ และตะโกนร้องว่า
พ่อ ดูนี่ซิ “ต้นไม้มันวิ่งไปข้างหลัง มันวิ่งเร็วมากเลยนะ”
ผู้เป็นพ่อได้แต่จ้องมองเขาเขม็งด้วยแววตาเปี่ยมสุขและเปื้อนรอยยิ้ม
คู่สามี-ภรรยาที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ มองเด็กหนุ่ม อายุ 24 ปีคนนี้ และคิดในใจ
อะไรกัน โตขนาดนี้แล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็ก สงสัยจะมีปัญหาทางจิต ดูซิ แม้แต่พ่อเค้ายังไม่สนใจเลย
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มอุทานเสียงดังขึ้นมาอีก
พ่อ ดูโน่น “ก้อนเมฆมันวิ่งมากับพวกเราด้วย”
คู่สามี-ภรรยาอดใจไม่ไหว จึงพูดกับผู้เป็นพ่อว่า
ทำไมคุณไม่พาลูกชายไปหาหมอดี ๆ เช่น จิตแพทย์ ก็น่าจะดีนะ?
ชายชราผู้เป็นพ่อยิ้มและตอบว่าผมเพิ่งพาไปครับ
เราเพิ่งพบแพทย์กันมาแต่ไม่ใช่จิตแพทย์หรอกครับ
เราเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลกันครับ
ลูกชายผมตาบอดมาแต่กำเนิด
เค้าเพิ่งจะมองเห็นวันนี้เป็นครั้งแรก
พฤติกรรมของเค้าอาจจะดูงี่เง่าสำหรับพวกคุณ แต่มันคือปาฏิหารย์สำหรับผมครับ
คู่สามี-ภรรยา ต่างนั่งอึ้ง พูดไม่ออก
น้ำตาเอ่อท้น และรู้สึกเสียใจ-อับอายเป็นอย่างยิ่ง
ทุกคนบนโลกใบนี้ต่างมีเรื่องราว
อย่าตัดสินผู้อื่นเร็วเกินไป อย่าด่วนสรุปสิ่งที่คุณไม่รู้จริงในเรื่องที่เป็นส่วนตัวของเขา
คุณไม่มีทางทราบหรอกว่าเขามีความเป็นมาอย่างไร หรือเขาต้องเผชิญกับอะไรมาบ้าง
เมื่อความจริงเบื้องหลังเรื่องราวของเขาถูกเปิดเผย คุณอาจจะแปลกใจ
โปรดทำตัวสบาย ๆ กับคนอื่น (นัยยะคือ อย่าคิดไม่ดี อย่าหาเรื่อง) แม้ว่าคุณจะมีชีวิตที่สมบูรณ์
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1366444560137833&id=303877426394557
*********************************************************************************
มีคนตาบอดคนหนึ่ง ทุกๆค่ำคืนจะถือตะเกียงสว่างดวงหนึ่ง
คนอื่นเห็นเข้า รู้สึกประหลาดใจ จึงถามเขาว่า คุณตามองไม่เห็น เหตุใดใยต้องเดินถือตะเกียงอีก
คนตาบอดตอบอย่างไม่อ้อมค้อม เหตุผลนั้นง่ายมาก ที่ฉันถือตะเกียง ไม่ได้เพื่อส่องทางให้ตัวเอง
แต่เพื่อส่องทางให้คนอื่น ให้เขาเห็นฉัน จึงไม่เดินมาชนฉัน
ด้วยเหตุอย่างนี้ การช่วยเหลือคนอื่น ย่อมช่วยรักษาตัวเราเองด้วย
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1334944343287855&id=303877426394557
มีคนตาบอดคนหนึ่ง ทุกๆค่ำคืนจะถือตะเกียงสว่างดวงหนึ่ง
คนอื่นเห็นเข้า รู้สึกประหลาดใจ จึงถามเขาว่า คุณตามองไม่เห็น เหตุใดใยต้องเดินถือตะเกียงอีก
คนตาบอดตอบอย่างไม่อ้อมค้อม เหตุผลนั้นง่ายมาก ที่ฉันถือตะเกียง ไม่ได้เพื่อส่องทางให้ตัวเอง
แต่เพื่อส่องทางให้คนอื่น ให้เขาเห็นฉัน จึงไม่เดินมาชนฉัน
ด้วยเหตุอย่างนี้ การช่วยเหลือคนอื่น ย่อมช่วยรักษาตัวเราเองด้วย
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1334944343287855&id=303877426394557
****************************************************************************
ความผิดพลาดในชีวิตบ่อยครั้งเกิดจากการด่วนสรุปหรือผลีผลามตัดสิน โดยไม่สอบถาม หรือฟังผู้ที่เกี่ยวข้องเสียก่อน จริงอยู่คนเราเมื่อเห็นหรือได้ยินอะไร ก็อดไม่ได้ที่จะตีความหรือหาความหมายจากสิ่งนั้น รวมทั้งคาดเดาถึงที่มาที่ไปของมัน แต่หากเราตระหนักหรือระลึกว่านั่นเป็นแค่ “ความคิด” ซึ่งอาจผิดหรือถูกก็ได้ เราก็จะไม่ด่วนสรุปว่ามันเป็น “ความจริง” ทำให้พร้อมที่จะรับฟังข้อเท็จจริงหรือความเห็นที่ต่างออกไป
ปัญหาก็คือคนเรามักด่วนตัดสินโดยไม่รู้ตัว ทันทีที่คิดนึกหรือคาดเดาอะไรขึ้นมาได้ก็ยึดมั่นสำคัญหมายว่ามันเป็นความจริงหรือสิ่งที่ถูกต้อง จนไม่ยอมเปิดใจรับฟังอะไรที่ต่างจากความคิดนั้น ผลก็คือความคิดนั้นกลายเป็นนายเรา ควบคุมบงการให้เราพูดหรือทำตามมัน ดังที่บงการแก้วให้ต่อว่าแม่ด้วยความไม่พอใจ
การมีสติรู้ทันความคิดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราไม่ด่วนสรุป หรือหากเผลอด่วนสรุปไปแล้ว ก็รู้ตัว และวางมันไว้ก่อน ไม่ปล่อยให้มันบงการจิตใจ พร้อมเปิดใจรับฟังผู้อื่น หรือตามดูเหตุการณ์ให้แน่ใจ ซึ่งบ่อยครั้งช่วยให้ไม่เผลอทำสิ่งผิดพลาด ที่ทำให้ต้องเสียใจในภายหลัง
อังคณา มาศรังสรรค์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “ผลัดใบชีวิต” เล่าว่า วันหนึ่งเธอชวนลูกไปเดินเล่นในสวน ลูกชายทั้งสองเดินไปก็แหย่หยอกกันไป เธอเดินตามหลังลูก เห็นแล้วก็ลุ้นในใจว่า ลูกจะตีกันไหมหนอ สักพักก็เห็นคนพี่หันไปทำท่าเหมือนตีหัวน้อง เธอเกือบจะหลุดปากออกไปปรามลูกว่า “เล่นกันดี ๆ ลูก ทำไมต้องตีหัวน้อง” แต่แล้วก็ยั้งเอาไว้ เพราะเกรงว่าน้องจะรู้สึกมีพวก และหันมางอแงหาแม่ให้ช่วย
ครู่ต่อมาเธอเห็นคนพี่ตีหัวน้องอีกครั้ง คราวนี้เธอเห็นความโกรธพุ่งจี๊ดขึ้นมา แต่ไม่ทันจะทำอะไรไป ก็ได้ยินลูกคนโตพูดว่า “เดี๋ยว ๆ ยังไม่ออกเลย มดตะนอยเกาะอยู่ เดี๋ยวโดนกัดหรอก”
เธอได้ยินก็อมยิ้ม รู้สึกดีใจที่ไม่ได้พูดอะไรออกไป หาไม่ลูกชายคงจะเสียใจมากกับคำพูดของแม่ที่เข้าใจลูกผิด
คงไม่มีอะไรที่ทำให้ลูกเสียใจมากเท่ากับถูกแม่ตำหนิทั้ง ๆ ที่ตัวเองทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ผู้เป็นลูกมักหนีไม่พ้นที่ต้องเจอเรื่องทำนองนี้ โดยที่แม่ก็หารู้ไม่ว่าได้ทำอะไรลงไป เพราะคิดเสมอว่าแม่ย่อมรู้ดีกว่าลูก
หนังสือเล่มเดียวกันนี้เล่าถึงคุณแม่ผู้หนึ่ง เธอชอบพาลูกสาววัย ๕ ขวบเดินชมสวน เธออยากให้ลูกมีนิสัยรักธรรมชาติ ระหว่างที่เดินมักจะเตือนลูกไม่ให้เด็ดดอกไม้ แต่ลูกก็มักจะทำตรงข้าม เธอเห็นคราวใดก็ตีมือลูกเบา ๆ พร้อมกับพูดเสียงแข็ง “แม่บอกหลายครั้งแล้วนะ ไม่ให้เด็ดดอกไม้” บ่อยครั้งที่ลูกสาวมีอาการงอน เสียใจ ขณะที่เธอรู้สึกกังวลที่ลูกสาวเป็นคนดื้อ ไม่ค่อยเชื่อฟังแม่
มีช่วงหนึ่งที่เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตให้ช้าลงและไม่ด่วนสรุป เธอจึงอยากทดลองใช้กับตัวเองบ้าง วันหนึ่งขณะที่เดินเล่นกับลูกสาว เธอเห็นลูกน้อยเอื้อมมือไปเด็ดดอกไม้ เธอรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาทันที แต่เตือนตนไม่ให้ผลีผลามทำอะไร นึกในใจว่า “ลองช้าสิ ลองไม่ตัดสินสิ ดูก่อน ลูกจะเอาดอกไม้ไปทำอะไร” ลูกเด็ดดอกไม้เสร็จเธอก็เดินตามลูกไป พอกลับถึงบ้านลูกถามหาชามเล็ก ๆ แม่ถามว่าจะเอาไปทำอะไร
“ใส่ดอกไม้ค่ะ เวลาพ่อกินข้าว จะได้ดูดอกไม้สวย ๆ” ลูกตอบ
แม่น้ำตาคลอทันที คิดมาตลอดว่าลูกเป็นคนดื้อ หากเธอด่วนสรุปด่วนตำหนิเหมือนเคย ก็คงไม่รู้ว่าลูกสาวมีน้ำใจงดงามเช่นนี้
ความสัมพันธ์ในครอบครัวแม้เริ่มต้นด้วยความรัก แต่มักปริร้าวจนแตกแยกก็เพราะผู้คนไม่ค่อยฟังกัน แม้จะได้ยินด้วยหู เห็นด้วยตา แต่เมื่อมีข้อสรุปล่วงหน้าแล้ว ใจก็ปิดไม่ยอมรับรู้ความเห็นต่าง จึงยากที่จะเข้าใจกันได้ ทำให้เห็นผิดไปจากความเป็นจริง ความรักจึงกลายเป็นความมึนตึงและความเกลียดชังกันในที่สุด
อย่าเพิ่งด่วนสรุป ตัดสินช้าลงสักนิด พึงระลึกว่าความจริงนั้นเป็นมากกว่าสิ่งที่เห็นด้วยตา ได้ยินด้วยหู หรืออาจตรงข้ามกับสิ่งที่คิดในใจก็ได้ แม้จะมีข้อสรุป ก็เผื่อใจไว้บ้างว่าความจริงอาจมิใช่เป็นอย่างที่คิด ลองสอบถามหรือดูต่อไปสักนิด เราอาจเห็นความจริงอีกด้านหนึ่งที่งดงามของคนที่เรารัก
ที่มา...นิตยสารสารคดี : ฉบับที่ ๓๑๒ :: กุมภาพันธ์ ๕๔ ปีที่ ๒๖
*******************************************************************************
อย่าตัดสินคนที่เครื่องแต่งกาย https://youtu.be/rQtYMU4JSMw
*******************************************************************************
***********************************************************************
จับคนเร่ร่อนมาแปลงโฉม
การกระทำ/โรนัลดินโญ
https://www.matichon.co.th/sport/sportscoop/news_2051316
สถานการณ์เป็นแม่บ้านในสิงคโปร์ ส่วนใหญ่เป็นฟิลิปปินส์หรือมาเลที่ยากจน
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=255574694866062&id=134481746975358
นายแบบอายุ80
https://youtu.be/GY1r6RrBGkc
ชีวิตที่เรียบง่าย / คนธรรมดา
มีเงื่อนไขให้น้อย กับการใช้ชีวิตของตัวเอง...
เพิ่มวัตถุในโลก มาปกป้องห่อหุ้มตัวเรา ให้เทอะทะอุ้ยอ้าย
เมื่อเทียกับความสุขที่เป็นผลสำเร็จ จากการปรับตัว และปล่อยเลิก
ฝึกฝนตนเองให้อยู่ง่ายกินง่าย ไม่สร้างภาระ...
https://m.facebook.com/photo.php?fbid=10157046999806359&id=179962701358&set=a.182941841358&source=54&ref=page_internal
พศิน อินทรวงศ์.บทสนทนาเปลี่ยนชีวิต.
https://youtu.be/2HGBmyXufQA
เราเห็นว่า โลกนี้เราไม่ได้เก่งอยู่คนเดียว
เราเป็นแค่ชีวิตที่อยู่ในวงจรที่มันเกื้อกูลกัน
ถ้าเราคิดแบบนี้ เราเข้าใจ...
แต่สิ่งนี้เราเข้าใจได้
เราต้องสังเกตชีวิต
โจน จันได.ชีวิตง่ายๆ แต่ทำไม เราถึงต้องทำให้มันยาก.
https://m.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=21j_OCNLuYg
หลังจากที่ผมพึ่งพาตัวผมเองใน4เรื่อง(บ้าน เสื้อผ้า อาหาร เจ็บป่วย) ที่ผมกล่าวไปแล้ว
ผมรู้สึกว่าชีวิตช่างแสนง่ายดาย
ผมรู้สึกเหมือนกับว่ามีอิสระเสรี
ผมรู้สึกหมดห่วงกังวลในทุกๆสิ่ง
ผมมีความกลัวน้อยลง
ผมทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำในชีวิต
เมื่อก่อนผมมีแต่ความกลัว ผมไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง
ตอนนี้ผมรู้สึกมีอิสระ ราวกับว่าผมเป็นเอกบุรุษของโลกนี้
ไม่มีใครเหมือนผม และผมก็ไม่ต้องการทำตัวเองให้เหมือนกับใครอื่น
ผมมันสุดยอด
สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้มันเป็นเรื่องง่ายๆ เรื่องเบาๆ
อดีต
เพลงขอบใจนะ https://youtu.be/7n0AFwu5r6k
เพลง ขอบใจนะ
ศิลปิน แพรว คณิตกุล เนตรบุตร
อัลบัม D.I.Y. By Narongvit
ข้อความที่เธอเคยส่ง อะไรที่ทำให้ฉัน
แสดงถึงความเป็นห่วงและสนใจ
เพิ่งรู้ว่ามันลำบาก ไม่เป็นตัวเธอใช่ไหม
เหนื่อยไหม ต้องทำอะไรอย่างนี้
อย่ายื้อให้เหนื่อยใจ หากเธอไม่เป็นตัวเอง
อย่าฝืนทำต่อไปอีกเลย เพื่อให้เรารักกัน
ขอบใจนะที่ครั้งนึงเธอเคยยอมฝืนใจตัวเอง
ขอบใจนะฉันรู้ว่าเธอทำดีที่สุดแล้ว
อย่างน้อยครั้งหนึ่ง ที่พยายามทุ่มเท
อดทนให้กัน แค่นั้นก็ดีมากมาย
อย่าโทษว่าตัวเธอผิด อย่าคิดว่าเป็นเรื่องร้าย
อย่ากลัวถ้าเธอจะปล่อยมือฉันไป
กลับไปเป็นเธอคนเก่า เก็บความทรงจำนี้ไว้
ได้ไหมฉันขอให้เป็นอย่างนั้น
อย่ายื้อให้เหนื่อยใจ หากเธอไม่เป็นตัวเอง
อย่าฝืนทำต่อไปอีกเลย เพื่อให้เรารักกัน
ขอบใจนะที่ครั้งนึงเธอเคยยอมฝืนใจตัวเอง
ขอบใจนะฉันรู้ว่าเธอทำดีที่สุดแล้ว
อย่างน้อยครั้งหนึ่ง ที่พยายามทุ่มเท
อดทนให้กัน แค่นั้นก็ดีมากมาย
ขอบใจนะที่ครั้งนึงเธอเคยยอมฝืนใจตัวเอง
ขอบใจนะฉันรู้ว่าเธอทำดีที่สุดแล้ว
อย่างน้อยครั้งหนึ่ง ที่พยายามทุ่มเท
อดทนให้กัน แค่นั้นก็ดีมากมาย
อ่านกี่รอบก็ชอบอยู่ดี..
ข้อคิดดีมาก..
ในวันไว้ทุกข์แด่สมเด็จพระสังฆราช
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
1. เมื่อวาน
ไม่สามารถกลับไป
แก้ไขอะไรได้
จึงมีวันพรุ่งนี้
ให้เราได้ทำสิ่งดีๆต่อไป
ยิ้มยัง
กิจโตเกียว ท่านำ้ปากเกร็ด นนทบุรี
หัวเราะตลอด
“พ่อแม่คือชีวิต“
https://youtu.be/wMeV1OHjwMQ
******************************************
ภาษาพูดในประเทศลาว บางคำต้องอมยิ้ม เช่นหลอดดูด-ท่อดูด
ไอติม-กะแหล่ม
https://news.mthai.com/webmaster-talk/63252.html
เพื่อน
ซุนยาง"
" ความอิจฉา... เป็นอุปสรรคต่อมิตรภาพ
สุภาณี ปิยพสุนทรา...แปล
https://m.facebook.com/likeboyyyyyyyyyyyyy/photos/a.303881269727506.65745.303877426394557/874785605970400/?type=3
เมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์ สิ่งนั้นมันจะเกิดเป็นรอยแผล
มีเด็กน้อยคนหนึ่งที่สีหน้าแสดงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก พ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขา 1 ถุง และบอกกับเขาว่า “ทุกครั้งที่เขารู้สึกโมโห หรือโกรธใครสักคน ให้ตอกตะปู 1 ตัวเข้าไปกับรั้วที่หลังบ้าน”
วันแรกผ่านไป เด็กน้อยคนนั้นตอกตะปูเขาไปที่รั้วหลังบ้านถึง 37 ตัว และก็ค่อย ๆ ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ ในแต่ละวันที่ผ่านไปก็ลดจำนวนลง น้อยลง น้อยลง เพราะเขารู้สึกว่า การรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองให้สงบ ง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ
และแล้ว หลังจากที่เขาสามารถควบคุมตนเองได้ดีขึ้นใจเย็นมากขึ้น เขาจึงเข้าไปพบกับพ่อ และบอกกับพ่อของเขาว่า เขาสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้แล้ว ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็นมา
พ่อยิ้ม และบอกกับลูกชายของเขาว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเจ้าต้องพิสูจน์ให้พ่อรู้ โดยทุก ๆ ครั้งที่เขาสามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของตนเองได้ ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้าน 1 ตัว ทุกครั้ง”
วันแล้ววันเล่า เด็กน้อยคนนั้นก็ค่อย ๆ ถอนตะปูออก ทีละตัว จาก 1 เป็น 2 ... จาก 2 เป็น 2 จนในที่สุดตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออกจนหมด
เด็กน้อยดีใจมากรีบวิ่งไปบอกกับพ่อเขาว่า “ฉันทำได้ ในที่สุดฉันก็ทำจนสำเร็จ!”
พ่อไม่ได้พูดอะไร แต่จูงมือลูกของเขาออกไปที่รั้วหลังบ้าน และบอกกับลูกว่า “ทำได้ดีมาก ลูกพ่อ และเจ้าลองมองกลับไปที่รั้วเหล่านั้นสิ เจ้าเห็นหรือไม่ว่า รั้วนั้นมันไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนกับที่มันเคยเป็น จำไว้นะลูก เมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์ สิ่งนั้นมันจะเกิดเป็นรอยแผล เหมือนกับการเอามีดที่แหลมคมไปแทงใครสักคน ต่อให้ใช้คำพูดว่า "ขอโทษ" สักกี่หน ก็ไม่อาจลบความเจ็บปวด ไม่อาจลบรอยแผลที่เกิดขึ้นกับเขาคนนั้นได้”
ฉันใดก็ฉันนั้น “กับเพื่อน” เพื่อนเปรียบเสมือนอัญมณีอันมีค่า ที่หายาก เป็นคนที่ทำให้เรายิ้ม เป็นคนที่คอยให้กำลังใจ และยินดีเมื่อเราพบกับความสำเร็จ เป็นคนที่คอยปลอบใจเราเมื่อยามเศร้า ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา และจริงใจกับเราเสมอ
แสดงให้เขาเห็น ว่าเราห่วงใยเขามากแค่ไหน และระวังสิ่งที่เราทำไป ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ และจงจดจำไว้เสมอว่า “คำขอโทษ ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เราหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้น คือ รอยร้าวที่เขาคงไม่อาจลืมมันได้..ตลอดไป”
หวังว่านิทานนี้คงช่วยให้พวกเรา อยู่ร่วมกัน ทำงาน ร่วมกัน คบกัน ด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดไป
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1375551799227109&id=303877426394557
" ความอิจฉา... เป็นอุปสรรคต่อมิตรภาพ
สุภาณี ปิยพสุนทรา...แปล
https://m.facebook.com/likeboyyyyyyyyyyyyy/photos/a.303881269727506.65745.303877426394557/874785605970400/?type=3
เมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์ สิ่งนั้นมันจะเกิดเป็นรอยแผล
มีเด็กน้อยคนหนึ่งที่สีหน้าแสดงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก พ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขา 1 ถุง และบอกกับเขาว่า “ทุกครั้งที่เขารู้สึกโมโห หรือโกรธใครสักคน ให้ตอกตะปู 1 ตัวเข้าไปกับรั้วที่หลังบ้าน”
วันแรกผ่านไป เด็กน้อยคนนั้นตอกตะปูเขาไปที่รั้วหลังบ้านถึง 37 ตัว และก็ค่อย ๆ ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ ในแต่ละวันที่ผ่านไปก็ลดจำนวนลง น้อยลง น้อยลง เพราะเขารู้สึกว่า การรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองให้สงบ ง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ
และแล้ว หลังจากที่เขาสามารถควบคุมตนเองได้ดีขึ้นใจเย็นมากขึ้น เขาจึงเข้าไปพบกับพ่อ และบอกกับพ่อของเขาว่า เขาสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้แล้ว ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็นมา
พ่อยิ้ม และบอกกับลูกชายของเขาว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเจ้าต้องพิสูจน์ให้พ่อรู้ โดยทุก ๆ ครั้งที่เขาสามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของตนเองได้ ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้าน 1 ตัว ทุกครั้ง”
วันแล้ววันเล่า เด็กน้อยคนนั้นก็ค่อย ๆ ถอนตะปูออก ทีละตัว จาก 1 เป็น 2 ... จาก 2 เป็น 2 จนในที่สุดตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออกจนหมด
เด็กน้อยดีใจมากรีบวิ่งไปบอกกับพ่อเขาว่า “ฉันทำได้ ในที่สุดฉันก็ทำจนสำเร็จ!”
พ่อไม่ได้พูดอะไร แต่จูงมือลูกของเขาออกไปที่รั้วหลังบ้าน และบอกกับลูกว่า “ทำได้ดีมาก ลูกพ่อ และเจ้าลองมองกลับไปที่รั้วเหล่านั้นสิ เจ้าเห็นหรือไม่ว่า รั้วนั้นมันไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนกับที่มันเคยเป็น จำไว้นะลูก เมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์ สิ่งนั้นมันจะเกิดเป็นรอยแผล เหมือนกับการเอามีดที่แหลมคมไปแทงใครสักคน ต่อให้ใช้คำพูดว่า "ขอโทษ" สักกี่หน ก็ไม่อาจลบความเจ็บปวด ไม่อาจลบรอยแผลที่เกิดขึ้นกับเขาคนนั้นได้”
ฉันใดก็ฉันนั้น “กับเพื่อน” เพื่อนเปรียบเสมือนอัญมณีอันมีค่า ที่หายาก เป็นคนที่ทำให้เรายิ้ม เป็นคนที่คอยให้กำลังใจ และยินดีเมื่อเราพบกับความสำเร็จ เป็นคนที่คอยปลอบใจเราเมื่อยามเศร้า ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา และจริงใจกับเราเสมอ
แสดงให้เขาเห็น ว่าเราห่วงใยเขามากแค่ไหน และระวังสิ่งที่เราทำไป ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ และจงจดจำไว้เสมอว่า “คำขอโทษ ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เราหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้น คือ รอยร้าวที่เขาคงไม่อาจลืมมันได้..ตลอดไป”
หวังว่านิทานนี้คงช่วยให้พวกเรา อยู่ร่วมกัน ทำงาน ร่วมกัน คบกัน ด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดไป
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1375551799227109&id=303877426394557
ใครคือเพื่อนเรา
วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
ต้องสู้ กับตัวเอง/ มะละกอที่บ้านม.รภ.สร./ท้อ/พอดี
19.10.2553 มะละกอหลังบ้านหัก แต่ก็ชูยอดรับแสงแดด
อีกต้นเอนต้องเอาเก้าอี้มายัน
สอนเราว่าชีวิตต้องสู้
*************************************************
หลวงปู่~คนมาวัดกินทิ้งกินขว้าง มีกินอุดมสมบูรณ์ ขนมนมเนย
คนที่เขาไม่มี มันไม่มีจะกินเลย
22/1/63
20/1/63
คนขายของเร่ด้วยมอไซค์ ในเขมร ไปเอาของจากร้านมาก่อน
เราขายตามหมู่บ้านห่างไกล15วันจึงกลับบ้าน
กลับมาค่อยคิดราคาของที่ขายกับทางร้าน
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ลูกหมาเข้าบ้านไม่ได้ แมวช่วยดันก้น
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2890639167639839&id=1920119358277556
ตามหาผู้มีพระคุณ
https://youtu.be/Ma0m-7GwE5Q
มินความแข็งแกร่งร่างกายเพื่อลูก
https://youtu.be/7x-7EEqB-PM
*************************************************
https://youtu.be/QDqT1DJRkwA
************************************************
https://youtu.be/6FgQXUUWCm4เรา:ภาษากายกับภาษาใจตรงกัน พูดโดยไม่ประดิษฐ์คำ คิิดกับพูดออกมาคืออันเดียวกัน มีศรัทธาในตัวเองส.14ก.ค61
******************************************************************
“เราไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย มันเป็นโชว์ที่เราอยากทำ
บอกว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เต้นเร็วขนาดนี้...
ตั้งแต่เคยเต้นมา ไม่เคยเต้นอะไรเร็วขนาดนี้มาก่อน เหนื่อยมาก
คือแบบว่าเก็บดีดทุกเม็ดเลยอ่ะ ยากนะ คือท่าพิศดารมาก
กังวลว่าจะจำไม่ได้ คิดไม่ทันค่ะ เพราะว่ามันเร็วมากจริงๆ ก็ยากแต่ว่าต้องทำให้ได้
ซ้อมวันที่2 มันก็เหนื่อยมากนะฮะ แล้วก็รู้สึกว่า มันหนักกว่าเดิม แล้วท้อ
เราต้องซ้อมเยอะๆ ซ้อมเยอะๆ สู้อ่ะ
แล้วก็รู้สึกว่านี่แหละเราได้ขึ้นเวทีแล้ว จะทำให้เต็มที่ และก็วันนี้ได้โอกาสแล้ว
จะทำให้โชว์นี้เป็นโชว์ที่ประทับใจคนดูค่ะ
เบื้องหลังการทำโชว์ของพิงกี้“เราได้โอกาสแล้ว สู้“
https://youtu.be/Oupe8lcTgiw
คำสอนหลวงปู่
สิ่งที่ทำแล้ว หยุด จะทำสิ่งที่ยังไม่เคยทำ
ศ.9ก.ย.59
******
(เรา:การที่จะลุกขึ้นมาในแต่ละเช้า ต้องมีแรงบันดาลใจเพื่อวางแผนว่า เช้านี้จะเริ่มต้นวันอย่างไร โดยเราเป็นคนกำหนดสิ่งที่จะเกิดขึ้นของวันนี้ด้วยตัวของเราเอง หลวงปู่สอนว่าจะไม่ทุกข์ เพราะรู้ทางที่จะไป
ไม่ใช่ปล่อยชีวิตล่องลอย แล้วแต่คนอื่นจะพาไปไหน)
******************************************************************
เด็ก5ขวบกับการแสดงรอเลอเบส เธอล้มขณะแสดง และเธอตอบคำถามว่าเธอรู้สึกอย่างไรเมื่อล้ม
https://youtu.be/U7m44v_Sdk0
******************************************************************
ดร.ไก่แก้ปัญหาการเรียน ธุรกิจ ครอบครัว ...ยังไง https://youtu.be/GUnsIqmtZxE
******************************************************************
คุณเคยรู้สึกแย่กับชีวิตไหม
Do you think you are going NOWHERE in life?
ถ้าคำตอบคือใช่ จงหยุด แล้วสูดหายใจลึกๆ แล้วอ่านนี่
คนบางคนเรียนจบตอนอายุ22
แต่ต้องรอถึง5ปี กว่าจะหางานที่มั่นคงได้
คนบางคนเป็นซีอีโอตั้งแต่อายุ25 แต่ตายตอนอายุ50
ในขณะที่อีกคนเป็นซีอีโอตอนอายุ50 แต่มีชีวิตอยู่ถึง90ปี
คนบางคนโสด ในขณะที่อีกคนแต่งงานมีครอบครัว
โอบามาเกษียณตอนอายุ55
ในขณะที่ทรัมป์เริ่มตอนอายุ70
เพราะฉะนั้นทุกคนในโลกนี้ มีเวลาที่ดีเป็นของตัวเอง
คนบางคนอาจเหนือกว่าเรา
คนบางคนอาจด้อยกว่าเรา
แต่เชื่อเถอะว่า ไม่ต้องไปแข่งกับใคร แต่จงแข่งกับตัวเอง
ใครเหนือกว่าเรา...อย่าไปอิจฉา
ใครด้อยกว่าเรา...อย่าไปเยาะเย้ย
เขาก็อยู่ส่วนเขา เราก็อยู่ส่วนเรา
ชีวิตก็แบบนี้ มีทุกข์ มีสุข มีเศร้า จงอดทนรอวันของเรา
ทุกอย่างไม่มีคำว่าสาย และไม่มีคำว่าเร็วเกิน
ชีวิตต้องอยู่บนความพอดี และเรามาถูกทางแล้ว
อีกไม่นานเกินรอนะ
(น้าต้อมส่งมา13มีค.61)
******************************************************************
แล้วคุณละเลือกที่จะเป็นแบบไหน แครอท ไข่ หรือกาแฟ
เช้าวันหนึ่งลูกสาวตัดสินใจที่เล่าเรื่องชีวิตให้ผู้เป็นพ่อฟัง เธอกำลังรู้สึกอับจนปัญญา ที่จะจัดการกับชีวิต รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเพราะเมื่อสางปัญหาหนึ่งเสร็จสิ้น อีกปัญหาหนึ่งก็ก้าวเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ
.
พ่อซึ่งเป็นพ่อครัวจึงเดินนำเธอเข้าไปในครัว ต้มน้ำในหม้อ 3ใบ
ด้วยไฟแรงจนน้ำเดือด
ในหม้อใบที่ 1 เขาใส่แครอท
ในหม้อใบที่ 2 วางไข่ลง
ในหม้อใบที่ 3 ตักกาแฟลงไป
แล้วปล่อยให้มันต้มไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำอธิบาย เวลายี่สิบนาทีผ่านไป
พ่อก็ปิดเตาแก๊ส
ตักแครอทขึ้นมาวางไว้ในชามใบที่ 1
นำไข่วางไว้ในชามอีกใบที่ 2
และตักกาแฟไว้ในชามใบที่ 3
แล้วหันไปถามลูกว่า"ลูกเห็นอะไรบ้าง"
ลูกสาวตอบ "แครอท ไข่ กาแฟ"
พ่อจึงให้ลูกสาวจับแครอท
เธอจึงรู้ว่ามันนิ่ม
แล้วเขาก็ให้ลูกสาวตอกไข่เมื่อ
เธอแกะเปลือกไข่ออกก็พบว่าไข่นั้นได้ต้มจนสุก
แล้วท้ายที่สุดเขาให้ลูกสาวลองจิบกาแฟดู
เธอยิ้มและชอบรสอันหอมกรุ่นนั้น
แล้วค่อยๆถามว่านี่หมายความว่าอย่างไรเหรอคะคุณพ่อ!!
พ่อจึงอธิบายว่า เราได้กระทำต่อ
3 สิ่งนี้ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันนั่นคือ
ต้มด้วยน้ำเดือดในอุณหภูมิ 100 องศาเหมือนกันแต่ผลลัพธ์มันกลับแตกต่างกัน!!
จากเดิมแครอทดูแข็งๆ และไม่โอนอ่อนผ่อนตาม พอผ่านการต้ม มันกลับนิ่มและดูอ่อนปวกเปียก ซึ่งเปรียบเสมือนแครอทนั้นดูแข็งโป๊ก
แต่เมื่อต้องเผชิญกับความทุกข์ยากนานาก็จะเฉา อ่อนแอและสูญเสียเรี่ยวแรงกำลังไป
ไข่ซึ่งดูบอบบาง มีเพียงเปลือกบางๆคอยห่อหุ้มของเหลวภายใน
แต่น้ำเดือดทำให้ของเหลวนั้นกลับแข็งขึ้น ซึ่งเปรียบเสมือน จิตใจอันอ่อนไหวของเรา เมื่อต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก การแตกแยกการหย่าร้างหรือการตกงาน
ไข่แม้เปลือกภายนอกของเรายังคงเดิม หากหัวใจและจิตวิญญาณของเราปวดร้าวแต่ในที่สุดได้แปรเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้น
ขณะที่กาแฟกลับมีลักษณะเฉพาะตัวตลอดกาล เมื่อมาเจอน้ำเดือด น้ำต่างหากที่แปรเปลี่ยนไป!!และณ อุณหภูมิสูงสุด 100 องศาเซลเซียส กาแฟกลับมีรสชาติดีและหอมกรุ่นขึ้น
ซึ่งเปรียบเสมือน การรู้ตัวเท่าทัน สิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างมีสติ ปัญหาอาจกลายเป็นปัญญา สามารถเปลี่ยนทุกข์กลายเป็นสุข ซึ่ง เหมือนกับการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เมื่อถึงภาวะที่เลวร้ายที่สุด นอกจากเราจะสามารถจัดการชีวิตตนเองได้แล้ว เรายังสามารถทำสิ่งรอบข้างให้ดีขึ้นได้ด้วย
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10214420988424249&id=1404757101
******************************************************************
การยื่น . . .
กล้วย 1 ลูก กับ ทอง 1 แท่ง ให้กับลิง ลิงต้องเลือกกล้วย เพราะมันไม่รู้ว่าทองแท่งสามารถที่จะซื้อกล้วยได้เป็นพันเป็นหมื่นลูกได้
ในทำนองเดียวกัน การยื่นทองแท่งกับสติปัญญาแก่คนใดคนหนึ่ง คนส่วนมากจะเลือกทองแท่ง เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าสติปัญญาสามารถจะแปรเปลี่ยนเป็นทองแท่งเป็นพันเป็นหมื่นแท่งได้
ดังนั้น บางครั้งการเลือกสรรก็สำคัญกว่าความขยัน
เมื่อ 10 ปีก่อน คุณเป็นใคร? หนึ่งปีก่อน คุณเป็นใคร?
แม้กระทั่งเมื่อวานนี้ คุณเป็นใคร? ก็ล้วนแต่ไม่สำคัญ
ที่สำคัญคือ วันนี้คุณเป็นใคร?
ชีวิตเรามีความเหน็ดเหนื่อยมาก
ปัจจุบันไม่เหนื่อย
ต่อไปก็จะเหนื่อยมากขึ้น
ชีวิตเรามีความลำบากมาก
ปัจจุบันไม่ลำบาก
ต่อไปก็จะลำบากมากขึ้น
มีแต่เคยเหน็ดเหนื่อย จึงจะได้รับความสุขสบาย
มีแต่เคยลำบาก จึงจะรู้ถึงความสบาย
ช่วงที่ยังเยาว์วัย ต้องกล้า..ที่จะก้าวออกไป ....ไปผจญกับลมฝนและหิมะ
เพื่อฝึกฝนจิตที่มีความอดทน ความกระจ่าง เฉลียวฉลาดและความสุขจึงจะตามมา
ในโลกนี้ นอกจากตนเองแล้ว
จะไม่มีใครที่ช่วยเหลือคุณอย่างแท้จริง
ไข่ไก่...
ถ้ามันแตกจากภายนอก ก็จะเป็นอาหาร
ถ้ามันแตกจากภายใน ก็จะเป็นชีวิต
ชีวิตคนก็เช่นกัน
หากถูกกระทำจากภายนอก จะเป็นแรงกดดัน
หากถูกกระทำจากภายใน จะเป็นการเติบโต
เชื่อว่า .. ชีวิตคนเราจะไม่ทอดทิ้งคุณ
คุณทนได้กับความลำบาก
คุณรับได้กับความเหน็ดเหนื่อย
คุณตกลงไปในหลุม
คุณเดินผิดเส้นทาง
ล้วนแต่เป็นการฝึกฝน ให้คุณเติบใหญ่ แข็งแกร่งที่ไม่เป็นรองใคร
จิตที่คิดแบบง่ายๆ ชีวิตก็จะง่าย
ใจที่เป็นอิสระ ชีวิตก็จะอิสระ
เรื่องต่างๆ ให้หาวิธีการแก้ไขให้มาก ลดการหาข้อแก้ตัว
ที่สุดแล้ว เชื่อว่า..ความสุขจะอยู่ไม่ไกล
ยืนหยัดไว้ แล้วจะค้นพบ..ตัวเองที่สุดแกร่งของคุณ
คุณพยายามและเต็มที่แล้ว ถึงจะมีสิทธิ์พูดว่า ..."ตนเองโชคไม่ดี"
ในโลกนี้ไม่มีงานการใด ที่ไม่ลำบาก
ไม่มีงานการใดที่เกี่ยวข้องกับผู้คนไม่ซับซ้อน
จงยิ้มทุกวัน
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ในโลกนี้ นอกจากความตายแล้ว
ล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
เพราะว่ามีวันพรุ่งนี้
วันนี้ จะเป็นเพียง..
วันเริ่มต้นเสมอ
หลังจากที่พยายามแล้ว จึงจะรู้ว่าเรื่องราวต่างๆ
ขอใหัยืนหยัดไว้ แล้วจะผ่านไปได้
คนเราคนเดียว อยู่ข้างนอกไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่มีอะไร
สิ่งที่สู้กันคือความแข็งแกร่ง
ผู้ที่ยิ่งผ่านเหตุการณ์มาก จะยิ่งสงบเรียบง่าย
ผู้ที่ผ่านเหตุการณ์น้อย จะยิ่งใจร้อนลุกลน
**********
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2560ในรัฐแอริโซนาที่มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย มีรายงานถึงอุณหภูมิที่สูงถึง 168 °F หรือประมาณ 76 °C ซึ่งนับว่าเกือบจะมากที่สุดในรอบปี บอกเลยว่าความร้อนระดับนี้แม้แต่เหล็กหรือคอนกรีตก็ทนไม่ไหว จนละลายกันแบบไม่เหลือชิ้นดี จึงกลายมาเป็นภาพที่เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากความร้อนของอากาศ จะเป็นอย่างไร ไปดูกัน
แมวที่ขาหน้าทั้ง2ข้างหายไป แต่ยังสนุกกับชีวิต
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)