วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561

ช้อคิดคำคมโดนใจ



ขอบคุณผู้เขียนทุกท่าน ขอเผยแพร่ต่อเพื่อเป็นประโยชน์กว้างขวาง เพียงประโยคหรือข้อความสั้นๆ อาจเปลี่ยนชีวิตใครก็ได้



เมื่อเราเห็นคุณค่า1%ในชีวิต ว่าจำเป็นhttps://youtu.be/CILBsM3lSwI






ความรักคือการห่วงใยกันและกันแม้ว่าคุณจะกำลังโกรธอยู่ก็ตาม
Love is caring for each other even when you’re angry.

















เว็บรวมคำโดนใจ
http://thai-motto.com/tag/บทความโดนๆ/ 












https://m.facebook.com/dungtrin/ 
























********


จำไว้นะลูก .. !!!
ไร้อาชีพ ต่างหาก ที่ยากไร้
ใช่จะตาย ตรงที่ ไม่มีผัว
มีวิชา เราจึง ได้พึ่งตัว

จะพึ่งผัว สมัยนี้ ได้กี่วัน

- @saiyasasmith
Suvinit Aum Pornnavalai

*******




ญี่ปุ่นด้านดี



ครู




อเมริกัน-ชน

เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้เขียนเรื่องนี้เป็นตอนที่2 ลงพิมพ์ในซีเคร็ตเดือนกรกฎาคม 2558 หน้า83 ดังนี้

       “สิ่งที่เคยเห็นตามสื่อต่างๆคือความฉาบฉวยเพียงเปลือกนอกที่อเมริกาสร้างภาพอย่างที่ต้องการให้ชาวโลกเห็น แต่ในความเป็นจริงแล้วชีวิตแบบอเมริกันไม่ได้หรูหราร่ำรวยแบบในภาพยนตร์แม้แต่น้อย ตรงกันข้ามต้องปากกัดตีนถีบทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน จึงดูเหมือนว่าคนอเมริกันเป็นคนขยันและตรงต่อเวลา ทั้งนี้เพราะเคยชินกับภาวะพลาดไม่ได้ โดยเฉพาะพวกที่รับค่าจ้างรายชั่วโมง เพราะอาจหมายถึงถูกแทนที่ด้วยคนใหม่อย่างง่ายดาย และการหางานใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าสนุก ยิ่งอายุมากขึ้นโอกาสในการหางานก็ยิ่งน้อยลง

                  คนไทยมักคิดว่าระบบการศึกษาของอเมริกานั้นดีเลิศ จนบางคนถึงกับส่งลูกมาเรียนที่นี่จั้งแต่ชั้นมัธยมเลยทีเดียว แต่อัตรานักเรียนที่เรียนไม่จบมัธยมในอเมริกานั้นมีมากกว่าร้อยละ50 บางแห่งสูงถึงร้อยละ65 คุณภาพของนักเรียนก็ต่ำลงเรื่อยๆ อย่างน่าใจหาย...ยิ่งกว่านั้นในแต่ละวันไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในโรงเรียน เพราะวันดีคืนดีนักเรียนวัยรุ่นอาจขโมยปืนพ่อมาไล่กราดยิงเพื่อนร่วมห้องตายนับสิบคนโดยไม่มีสาเหตุ“



/////////////

ข้อความจากตุ้มลิ้มอี่เฮียง

═══ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
อ่านกี่รอบก็ชอบอยู่ดี..
ข้อคิดดีมาก..
ในวันไว้ทุกข์แด่สมเด็จพระสังฆราช

3. เรื่องวุ่นวายบนโลก
มีอยู่ 2 อย่างเท่านั้นคือ
"ไปหลงรัก" และ
"ไปหลงเกลียด"
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
4. ความสบายใจ
ไม่ได้เกิดจาก
ทำทุกสิ่งให้ได้ดังใจ
แต่เกิดจากใจ
ที่ยอมรับว่า ไม่มีอะไร
ที่จะได้ดังใจเราไปทั้งหมด
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
5. ต่างคนต่างความคิด
ต่างจิตต่างใจ
อย่าดูถูกความคิดใคร
ถ้าความคิดต่าง
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
6. อ่านหนังสือออก สำคัญ
อ่านเหตุการณ์ออก สำคัญกว่า
อ่านคนอื่นออก สำคัญยิ่ง
อ่านตนเองออก สำคัญที่สุด
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
7. ถ้าคิดได้ ให้ช่วยคิด
ถ้าคิดไม่ได้ ให้ช่วยทำ
ถ้าทำไม่ได้ ให้ความร่วมมือ
ถ้าร่วมมือไม่ได้ ให้กำลังใจ
แม้ให้กำลังใจไม่ได้
ให้สงบนิ่ง
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
8. ละได้ ใจก็สะอาด
วางได้ ใจก็โล่ง
ปลงได้ ใจก็เย็น
อภัยได้ ใจก็สงบ
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
9. เงาจันทร์ เกิดจาก
ความนิ่งของน้ำ ฉันใด
ปัญญา เกิดจาก
ความนิ่งของใจ ฉันนั้น
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
10. ไม่ใช่ความทุกข์
ที่ทำให้เราคิดมาก
แต่เป็นเพราะเราคิดมาก
ทำให้เกิดความทุกข์
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
11. รู้จักให้ รู้จักรับ
รู้จักปรับ รู้จักให้อภัย
รู้จักแบ่ง รู้จักได้
รู้จักแข็ง รู้จักคลาย
ชีวิตจะเบาสบาย
และมีความสุข
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
12. หาที่สงบร้อยที่
ยังไม่ดีเท่าสงบที่ใจตน
รู้จักคนร้อยคน
ไม่ดีเท่ารู้จักตน
เพียงคนเดียว
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
13. เมื่อมี จงรู้จักให้
เมื่อได้ จงรู้จักพอ
เมื่อขอ จงรู้คุณค่า
คนเราเกิดมา ถึงเวลา
.........ก็ ต้องจากไป
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
14. สิ่งที่ย้อนไม่ได้ คือเวลา
สิ่งที่หนีไม่ได้ คือความตาย
สิ่งที่ชื้อไม่ได้ คือ สุขภาพ&ชีวิต
สิ่งที่มองไม่เห็น คือใจคน
สิ่งที่ต้องอดทน คือใจตัวเอง
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
15. ไฟไม่ได้ร้อน
ถ้าเราไม่เอาตัวเข้าไปใกล้
ทุกข์ใดๆก็ไม่ทำให้เราหนัก
ถ้าเราไม่เอาใจเข้าไปแบก
16. กำลังใจอาจหาได้
จากคนรอบข้าง
แต่ความเข้มแข็ง
เราต้องสร้างมันขึ้นเอง
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
17. บางครั้งกำลังใจ
นอกจากจะมีไว้ให้ใครๆ
ก็ต้องเก็บไว้ให้ตัวเองด้วย
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
18. เมื่อตัดสินใจ
ที่จะเดินไปข้างหน้า
ก็อย่าหวั่นไหวกับปัญหา
ที่จะต้องพบเจอ
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
19. คนมีปัญญา
มักมองเห็นโอกาส
ในทุกๆปัญหา
คนขาดปัญญา
มักมองเห็นปัญหา
ในทุกๆโอกาส
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
20. ทุกครั้งที่เรา ไม่เข้าใจกัน
ไม่ผิดที่จะโกรธ
แต่ผิดที่เราไม่ขอโทษกัน
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
21. จงเป็นคนดี
คนเก่งและมีความสุข
แค่นี้ก็เป็นคนโดยสมบูรณ์แล้ว
═══════════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═══════════












https://www.google.co.th/search?q=รูปคู่ชีวิตยามแก่เฒ่า&oq=รูปคู่ชีวิตยามแก่เฒ่า&aqs=chrome..69i57.43908j0j4&client=tablet-android-asus&sourceid=chrome-mobile&ie=UTF-8#imgrc=VdM-77U5o2J8ZM%3A




ยากที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์






































แง่คิดจากไอไสตน์
A = X+Y+Z
A ความสำเร็จ
X ทำงาน
Y พักผ่อน
Z พูดจาเหลวไหลให้น้อย

ชีวิตที่อยู่เพื่อผู้อื่นเป็นชีวิตที่ใช้อย่างคุ้มค่า

ที่มา รายการรู้รักษ์แผ่นดิน ช่อง 5 19.11.2552 เวลา 05:30-05:50 น.

ฉันสื่อสารอย่างเปิดเผยกับลูก
ฉันได้อ่านเรื่องนี้จากหนังสือชื่อเปลี่ยนจิต ชีวิตเป็นสุข.ที่นิดดา หงษ์วิวัฒน์แปลสำนักพิมพ์แสงแดด. 2556. หน้า50-51. เกิดกระแทกใจว่าควรนำมาใช้ปรับปรุตัวเองและน่าจะเป็นประโยชน์กับสาธารณะ จึงคัดลอกข้อความมาดังนี้

“ฉันรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งก็คือ เมื่อลูกๆเริ่มพูดเกี่ยวกับสิ่งใดก็ตาม พวกเขาก็จะถูกบอกย้ำสั่งสอนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า อย่าพูดอย่างนี้ อย่าทำอย่างนั้น อย่าแสดงออกอย่างนั้น อย่า อย่า อย่า! ผลก็คือลูกๆหยุดสื่อสารกับเรา

  ฉันเลี่ยงปัญหานี้ด้วยการฟัง เปิดรับการคิดและความคิดเห็นของพวกเขา ใช้วิธีประนีประนอมรองรับสถานการณ์ที่ท้าทาย

  ลูกๆและฉันมีความสัมพันธ์ที่หลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวอันแสนวิเศษ“



 หากคุณต้องสูญเสียทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งไป คุณจะยอมสูญเสียทรัพย์สินอย่างไหนครับ ทรัพย์สินการเงิน ทรัพย์สินมนุษย์หรือทรัพย์สินทางปัญญา
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1956327111259417&substory_index=0&id=1632981996927265

"สำหรับเด็กน้อย พ่อกับแม่คือโลกจริงๆของเขา 
ลูกควรจะได้เรียนรู้ทุกอย่างผ่านโลกจริงใบนี้อย่างถ่องแท้ก่อนจะเริ่มไปเรียนรู้โลกเสมือนจากอินเทอร์เน็ต"

มือของพ่อแม่มีหน้าที่ประคองมือน้อยๆของลูกขีดเขียนตัวหนังสือ และรูปต่างๆ แล้วมือน้อยนั้นก็จะได้รับรู้ทั้งความอบอุ่นจากมือ อ้อมแขน น้ำเสียงของพ่อแม่ไปพร้อมกับการขีดเขียนนั้น
ซึ่งคงดีกว่าปล่อยให้มือเล็กๆนั้นสไลด์ไปบนหน้าจอโทรศัพท์หรือแท็ปเล็ตเพียงลำพัง และสัมผัสได้เพียงไออุ่นจากความร้อนของจอสี่เหลี่ยมอย่างแน่นอน

ครั้งต่อไปที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายต้องเลือกว่าจะยื่นกระดาษกับดินสอสีแล้วใช้เวลาร่วมกับเค้า หรือยื่นแท็ปเล็ตให้ลูกไปนั่งดูเงียบๆ พึงระลึกไว้สักหน่อยว่าเด็กน้อยที่นั่งอยู่ตรงหน้าคุณนั้นไม่เคยขอคุณมาเกิดเลย มีแต่พ่อๆแม่ๆอย่างเราๆนี่แหละที่นับวันเฝ้ารอวันที่จะได้เห็นหน้าเค้า ดังนั้นจงมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดให้เค้าเถิด สิ่งมีค่าที่ไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหน..."เวลา"
https://m.facebook.com/photo.php?fbid=1951796931712435&id=1632981996927265&set=a.1636356973256434.1073741828.1632981996927265&source=48

คำสอนใดในพุทธศาสนาที่ไม่ได้มุ่งสู่ประเด็นการศึกษาที่ธรรมชาติของจิตใจคน 
หลวงพ่อบอกว่า เป็นเพียงเปลือก กระพี้ หรือกิ่งก้านสาขา ไม่ใช่แก่น อาจจะมีประโยชน์บ้าง แต่ไม่เท่ากับประโยชน์ที่ได้จากแก่นที่แท้จริง
https://m.facebook.com/photo.php?fbid=1954511424774319&id=1632981996927265&set=a.1636356973256434.1073741828.1632981996927265&source=48

กล้าที่จะทำ  พระวัดป่าท่านเดินธุดงค์ในป่าท่านก้าวข้ามความกลัวแล้วมองเห็นแต่สัจนักธรรม



https://m.facebook.com/wirodePAG/photos/a.1636356973256434.1073741828.1632981996927265/1954511594774302/?type=3&source=48

หากคนคนหนึ่งเรียนจนจบมหาวิทยาลัย แล้วยังไม่รู้อีกว่าตัวเองอยากจะทำอะไร ก็สมควรจะส่งเขาไปฝึกฝนขัดเกลาตัวเองในโลกภายนอกเสียบ้าง แล้วอย่าให้เงินเขา ให้เขาหาเงินเลี้ยงปากท้องเอง ให้โอกาสเขาไปแสวงหาตัวตนของตัวเอง และสัมผัสกับชีวิต เชื่อว่าเขาย่อมได้พบกับประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเขา
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=999362053440280&id=100000994832924&_rdr



























อย่าเพิ่งตอบรับหรืออย่าเพิ่งปฏิเสธ




ร่วมทุกข์ ร่วมสุข - ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่จำนวนเงินในสมุดบัญชี
เขาเริ่มจากการทำงานเป็นช่างปูนจนๆคนหนึ่ง และค่อยๆ ได้เลื่อนเป็นหัวหน้าช่างปูน ในเวลาไม่นานเขาก็ได้ก่อตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งในขณะนี้บริษัทก่อสร้างของเขาเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงพอสมควร และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดสิ่งยั่วยวนใจเขา
ภรรยาช่างปูนจนๆคน นี้ คอยดูแลสามีมาตลอดหลายปี จากหุ่นที่ผอมเพรียวเริ่มอ้วน ผิวพรรณที่เคยเนียนนุ่มก็เริ่มเหี่ยวลงทุกวัน ผิวพรรณที่หยาบกร้านทำให้เขารู้สึกแย่เมื่อเทียบภรรยากับผู้หญิงคนอื่น ลักษณะรูปร่างของภรรยาทำให้เขารู้สึกเบื่อ และเมื่อเห็นภรรยาเขาก็คิดถึงแต่เรื่องในอดีตช่วงชีวิตที่ลำบากและจน
เขา คิดว่าชีวิตคู่ของเราทั้งสองคงจะหยุดลงได้แล้ว
เขาฝากเงินในบัญชีให้ภรรยาเขา 100 ล้านหยวน เพียงพอต่อการซื้อบ้านใหม่ในเมือง เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบ เขาวางแผนชีวิตในอนาคตของภรรยาไว้ หากเขาไม่ทำเช่นนี้จะรู้สึกแย่ ไม่อยากให้ภรรยาต้องลำบาก.....
ในที่สุดก็ขอหย่ากับภรรยา
เธอ รับฟังข้อเสนอของเขาด้วยแววตาที่สงบและถ่อมตน เมื่อถึงเวลาที่เธอต้องย้ายออกไปอยู่บ้านที่สามีซื้อไว้ให้แล้ว ช่วงบ่ายโมงเขาก็กลับมาช่วยภรรยาย้ายบ้าน และเป็นการจบในการใช้เวลาอยู่ร่วมกันมา20กว่าปี
ตลอดช่วงเช้าเขาทำงาน ด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น พอถึงตอนบ่ายเขารีบกลับบ้านก็พบว่าภรรยาได้ออกจากบ้านแล้ว เธอวางกุญแจบ้านที่เขาซื้อให้กับสมุดบัญขีที่ฝากไว้ให้จำนวน100 ล้านหยวน พร้อมจดหมายที่เขียนข้อความไว้ว่า :
ฉันไปแล้วนะ ฉันจะกลับไปบ้านแม่ฉัน
ผ้าปูเตียงซักเสร็จและตากแห้งหมดแล้ว พับเก็บไว้ที่ห้องเก็บแต่งตัวมุมขวาของตู้ อากาศหนาวก็อย่าลืมเอาออกมาใช้นะ
เสื้อเชิตแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้า ถุงเท้า เข็มขัดเก็บไว้ชั้นล่างของตู้เสื้อผ้านะ
หลังจากที่ฉันไปแล้วอย่าลืมกินยา กระเพาะคุณไม่ค่อยดี ฉันฝากให้เพื่อนซื้อยาไว้ให้คุณน่าจะพอกินถึงครึ่งปี
อ่อ!ยังมีอีกเรื่อง คุณชอบลืมกุญแจบ้านเป็นประจำ ฉันเลยฝากกุญแจสำรองไว้ที่ป้อมยาม ถ้าลืมก็ไปเอาที่ป้อมยามได้
ตอนเช้าก่อนออกไปทำงานอย่าลืมปิดหน้าต่าง เพราะถ้าฝนตกจะสาดเข้าบ้านทำให้พื้นบ้านเปียกและเสียได้
ฉันทำเกี๊ยวที่คุณชอบอยู่ในห้องครัว กลับมาก็ต้มกินเองได้นะ.....
ตัวหนังสือของเธอในจดหมายเขียนได้ขี้เหร่มาก แต่ตัวหนังสือทุกตัวที่แสดงถึงความจริงใจสุดซึ้ง ทำให้เขารู้สึกเจ็บตรงหัวใจ
เขา นั่งมองเกี๊ยวที่ห่อเก็บไว้ให้เขา ทำให้เขานึกถึงเมื่อ 20 ปีก่อน ช่างปูนจนๆคนหนึ่ง นึกถึงเสียงสับผักที่เตรียมห่อเกี๊ยวให้เขา ทำให้เขามีความสุขและสัญญากับตัวเองไว้ว่า : ฉันจะต้องทำให้ผู้หญิงคนนี้มีความสุขที่สุด.....
เขารีบขับรถออกไปตามหาภรรยาทันที หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงเขาก็เจอภรรยาที่สถานีรถไฟ ร่างกายเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
เขา พูดด้วยความโมโหว่า : "คุณจะไปไหน ผมเพิ่งเลิกงาน เหนื่อยมาทั้งวันกลับบ้านยังไม่ได้กินข้าว หน้าที่ภรรยาเขาทำกันแบบนี้หรือไง? ตามผมกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ! "
ภรรยาเขาน้ำตาคลอ ค่อยๆลุกขึ้นและเดินตามหลังเขาไป จากรอยน้ำตากลายเป็นรอยยิ้ม
แต่ เธอไม่รู้ว่าผู้ชายที่เดินอยู่หน้า ตอนนั้นร้องไห้หนักมาก....ชายคนนี้กลัวมากขณะที่ขับรถมาที่สถานีรถไฟ เขากลัวว่าจะหาเธอไม่เจอ กลัวจะสูญเสียเธอไปตลอดชีวิต
เขาด่าและโทษ ตัวเองว่าทำไมถึงโง่แบบนี้ ทิ้งผู้หญิงที่เขารักมาก ผู้หญิงที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา 20 กว่าปี ซึ่งมันกลายเป็นอีกส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้
ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่จำนวนเงินในสมุดบัญชี แต่มันคือรอยยิ้มของคนที่รักต่างหาก
ที่มา WF Line

ลูกชายพาพ่อผู้ชราไปกินอาหารค่ำที่ร้านเล็กๆแต่หรูหรา มีแต่คนชั้นสูงมารับประทานอาหาร ที่นี่บรรยากาศดูขรึมขลังอลังการ
พ่อของเขาดูสูงวัยและร่วงโรย กินอาหารด้วยมือสั่นเทา จนอาหารหกตกหล่นบนเสื้อเชิ้ต และกางเกง เปรอะเปื้อนเป็นดวง ช้อนกระทบจานชาม เสียงดังจนแขกโต๊ะอื่นๆพากันมองอย่างสมเพช ขณะที่ลูกชายนั่งข้างๆ ช่วยตักอาหารและพูดกับพ่ออย่างยิ้มแย้มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ดูเหมือนเขาไม่สนใจว่าใครจะมองมา
เมื่อพ่อกินเสร็จ ลูกชายซึ่งไม่ได้มีท่าทีอับอายอะไร พาเขาไปที่อ่างล้างมือหน้าห้องน้ำ จัดแจงเช็ดรอยเปื้อนจากเศษอาหารบนเสื้อผ้าของพ่อ หวีผมให้ และช่วยขยับแว่นให้เข้าที่เข้าทาง
เมื่อพวกเขาเดินออกมา คนทั้งห้องมองมาเป็นตาเดียวกัน สายตาเหมือนจะบอกความหมายว่าไม่อายบ้างหรือที่มาทำรุ่มร่ามในร้านหรูอย่างนี้
ลูกชายจ่ายค่าอาหารแล้วพาพ่อเดินช้าๆผ่านโต๊ะอื่นๆไปยังทางออก
ชายกลางคนในหมู่แขกร้องบอกลูกชายว่า “พ่อหนุ่ม เธอทิ้งอะไรไว้หรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรนี่ครับ” ลูกชายตอบ
“เธอทิ้งไว้แน่ เธอทิ้งแบบอย่างไว้ให้ลูกชายทุกคน และสำหรับพ่อทุกคนด้วย” ชายกลางคนแย้ง
คนทั้งร้านเงียบกริบ
“เมื่อเรายังเด็ก เราเลอะเทอะเปรอะเปื้อน และส่งเสียงดังน่ารำคาญกว่านี้หลายเท่า พ่อไม่เห็นเคยอายใคร”
การได้มีโอกาสใส่ใจดูแลพ่อแม่ที่เคยดูแลเรามา น่าภูมิใจที่สุด เห็นด้วยไหม?

เรื่องนักปฏิบัติธรรม
นักปฏิบัติธรรมสมัยนี้ชอบใช้สมองปฏิบัติธรรม ชอบอ่าน ชอบฟัง แล้วเอามานั่งคิดวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ ถกเถียง แสดงภูมิกันไปมา อาจารย์นั้นสอนอย่างนั้น อาจารย์นี้สอนอย่างนี้ เรียนธรรมะเหมือนเรียนวิชาการทางโลก เข้าใจว่าจำนวนครั้งที่ไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมตามที่ต่างๆ เป็นเครื่องแสดงภูมิจิตภูมิธรรมของจน พอเจอกันก็คุยกันแต่ว่าเธอไปเข้าคอร์สนั่นนี่มากี่ครั้ง ฉันไปมาแล้วกี่ครั้ง
ข้อความโดยงามจิต มุทะธากุล นิตยสารเดอะซีเคร็ต ปีที่8 ฉบับที่169 10 กรกฎาคม 2558 หน้า38

แม่ค้าขายปลาทู
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=911070675675226&substory_index=0&id=303877426394557

























































ไฟ น้ำความไว้ใจ
http://www.pattanakit.net/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%86/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%88.html






































คลิป


1.ปราชญ์จีน
ขงจื้อแลกเปลี่ยนสนทนาธรรมกับเล่าจื่อ https://www.youtube.com/watch?v=iOIPalxfKtw
เผยแพร่เมื่อ 26 เม.ย. 2014

ขงจื้อปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่พาลูกศิษย์เยี่ยมป­รมาจารย์เล่าจื้อเพื่อขอคำชี้แนะนำธรรมะ
---------
ขอบคุณที่มา : ภาพยนต์จีนชุด ขงจื้อ จอมปราชญ์แห่งแผ่นดิน เวอร์ชั่น 2010
เพจแนะนำ https://www.facebook.com/thai.confucius




วาทะขงเบ้ง https://www.youtube.com/watch?v=iZAzmyNRAj0





โจโฉพูดได้โดนใจมาก  https://www.youtube.com/watch?v=ddKcF2DGmhI

หัวหน้ากองทหารก็เหมือนหมอ ทุกครั้งที่รักษาคนไข้ ยิ่งรักษาก็จะยิ่งเก่งขึ้น
พูดอีกอย่างก็คือยิ่งคนตายจากการรักษาผิดพ­ลาด หมอจะเรียนรู้มากขึ้น

ถ้าหัวหน้ากองทหารไม่เคยพ่ายแพ้ เขาจะรู้ได้ยังไงว่ารบยังไงถึงจะชนะ?
ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไหนหรอก ที่จะรบชนะตลอด
คนที่ไม่ถอดใจเท่านั้น, ถึงจะแข็งแกร่งขึ้นและได้พบกับชัยชนะที่แท­้จริง

ทหารแปดแสนสามหมื่นคนของเราบุกกังตั๋ง
แต่เราแพ้ให้กับทัพซุนและเล่าปี่ ที่มีแค่หกหมื่น
ทําไม?, ข้าคิดหาเหตุผลมาตลอด

ช่วงหลายปีมานี้เราทําศึกชนะมาตลอด ทหารเริ่มลําพอง, แม่ทัพเริ่มเกียจคร้าน
เราจึงพากันดูถูกคู่ต่อสู้ ข้ามองไม่ออกแม้กระทั่งแผนแปรพักตร์ง่ายๆ
เพราะงั้นแผนใช้ไฟของกังตั๋งจึงได้ผล และก็เป็นแบบที่เห็นกัน

ข้าคิดว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องลิ้มรสค­วามพ่ายแพ้บ้าง
การล้มเหลวเป็นเรื่องดี ความล้มเหลว สอนให้รู้วิธีประสบความสําเร็จ
ความล้มเหลว สอนให้รู้ว่าจะเอาชนะยังไง
ความล้มเหลว สอนให้เรารู้ว่าจะรวมแผ่นดินยังไง

ถ้าคนเราอยากประสบความสําเร็จ
เขาต้องรู้ว่าตอนไหนต้องเดินหน้า หรือปล่อยวาง

การทําสงครามก็เช่นกัน คนเราต้องชนะได้, และรับความพ่ายแพ้ได้
แม้เราจะพบกับความพ่ายแพ้ที่ผาแดงแต่ดินแด­นของเราไม่ได้เสียหายอะไรเลย
เรายังมีเมืองของเราครบ มณฑลทั้งสี่ เมืองต่างๆ, กองทัพที่เหลือ
ประชาชน, ภาษีที่เก็บได้ ยังมีมากกว่าซุนกับเล่ารวมกันมากมายนัก
ราชสํานักยังอยู่ที่ฉูฉาง และยังเป็นของเรา

แต่ซุนกับเล่าละ มีอะไร?
ในยามคับขัน พวกเขาจะร่วมมือกันต่อสู้ศัตรู
แต่เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว พวกเขาจะระแวงกันและวางแผนเขาใส่กันเอง
อย่างเช่น ถ้าเกิดจิวยี่กับจูเก่อเหลียงร่วมแรงร่วมใ­จกันแบบจริงใจ
มีหรือที่พวกเราทั้งหมดจะรอดชีวิตกันมาได้­?



โอวาทสี่ของท่านเหลียวฝานhttp://www.ideaforlife.net/dhamma/book/16.html
 https://www.youtube.com/watch?v=1E5S5MfCnXk


สุดยอดคำคม คติสอนใจตามหลักขงจื๊อhttps://www.youtube.com/watch?v=2oZmZp8Rpuk





ตั๊กม๊อปรมาจารย์เสี้ยวลิ้มยี่ https://www.youtube.com/watch?v=GmZM6KMR2gw



2.ธรรมสอนใจผู้ที่ท้อแท้


3.ดูเพื่อปลง ตื่นจากความลุ่มหลงในร่างกายอันไม่จีรัง จากหนังสือสดชื่นกับชีวิตของคุณ สุธา ธรรมชาติ บรรยายโดย.พระวัชระ จารุวัณโณ(ปั่นหอม) ป่าช้าหนองกก ม.๑๑ ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ 





สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงแท้





วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561

อาทิตย์ อุไรรัตน์



อาทิตย์ อุไรรัตน์ กับมุมมองประเทศอย่างเข้าถึง

 จุดแข็งของประเทศไทยที่มองเห็น ผมมองว่ามีอยู่ 4 ด้านที่เป็นจุดที่มหาวิทยาลัยรังสิตมุ่งไปคือ

1. ด้านเกษตร วันนี้ไม่มีใครสนใจ กลายเป็นเรื่องที่ตกต่ำในประเทศไทย คนทำก็ยากจน แต่ผมคิดว่ามันเป็นเพชรที่ไม่ได้เจียระไน เป็นจุดแข็งที่เรามองไม่เห็น เราอย่าไปอยากเป็นแบบคนอื่นเขา

เราเป็นไม่ได้หรอกประเทศอุตสาหกรรม จะเป็นประเทศอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ เราก็คงเป็นไม่ได้ เพราะเราสู้เขาไม่ได้ แต่เกษตรเราเป็นได้ แต่เราก็ไม่เห็น ผมจึงตั้งวิทยาลัยนวัตกรรมเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ และอาหารขึ้นมา

2. การแพทย์ 3. ท่องเที่ยว และ 4. ครีเอทีฟอาร์ต ฝีมือด้านศิลปะ ตั้งแต่สถาปัตยกรรม ดีไซน์ การออกแบบ นิเทศศาสตร์ ดนตรี ดังนั้น มหาวิทยาลัยจึงมุ่งไปทาง 4 ด้านนี้อย่างเข้มแข็ง

การท่องเที่ยวก็ต้องตีความให้กว้าง ไม่ใช่แค่พาไปเที่ยวหรือการโรงแรมเท่านั้น แต่การท่องเที่ยวเริ่มตั้งแต่การเดินทางมา นักบิน ซ่อมเครื่องบิน งานบริการบนเครื่องบิน หรือการรถไฟ เราก็เปิดหลักสูตรรถไฟในคณะวิศวกรรม

ขณะที่หลักสูตรการบิน เรามีนักบิน ซ่อมบำรุงอากาศยาน เรามีธุรกิจการบิน เรามี Chef School ไทย Chef School นานาชาติร่วมกับฝรั่งเศส คือมันมีทางทำได้เยอะแยะ อย่าไปงอมืองอเท้า

 ประเทศไทยเป็นประเทศที่สบายมาตลอด อุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ชีวิตไม่ต้องแก่งแย่งกัน อยู่สบายมาเรื่อยๆ เรียงๆ เราไม่ได้เป็นอย่างญี่ปุ่น อย่างสิงคโปร์ อย่างฮ่องกง เกาหลี หรือเวียดนาม ประวัติชีวิตของพวกเขาเหล่านี้ยากลำบากมานาน แต่ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง

แต่เมื่อวิวัฒนาการผ่านระยะมา เราควรจะไปในทิศทางที่ดีขึ้น ไม่ต้องเร็วเหมือนประเทศที่ว่ามา แต่บังเอิญเราก็ถูกนำด้วยสภาพการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ไปในทิศทางซึ่งมันมาทะเลาะเบาะแว้งกันในเรื่องไร้สาระ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย

 คุณภาพอย่างนี้ที่เราอยากให้เกิดขึ้น แล้วต้องกว้าง ต้องรวม ไม่ใช่ใครเป็นนักบัญชีแล้วทำแต่บัญชี แต่อาจจะต้องรู้ชีวิตทุกอย่าง ก็ยังพยายามทำและผลักดันอยู่

อย่างเช่นวันนี้ บุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลน ก็พยายามให้เพียงพอ อย่างพยาบาลขาดแคลนมาก ทั่วโลกก็ขาดแคลนด้วย แต่บางประเทศอย่างฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เขาบอกว่าเขาผลิตเพื่อการส่งออก ก็เป็นโอกาสเขา

แต่เราไม่ได้คิดเลย คิดแต่เพียงว่าไม่มีตำแหน่ง ไม่มีอัตราเงินเดือน ฉะนั้น ไม่ผลิต ทั้งๆ ที่เรามีความสามารถที่จะผลิตได้ ก็ไม่ผลิต พอก็ไม่พอ ขาดก็ขาด ประชาชนก็ได้รับความเดือดร้อน

ล่าสุดเราก็ร่วมผลิตกับทางโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลนพรัตน์ ประเด็นคือมันต้องทำ มันมองเห็นอยู่แล้วว่าควรจะทำ แต่เรามัวทำอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้

อย่างหลักสูตรนักบินซึ่งเป็นแห่งแรกที่เราผลิตนักบิน แล้วไม่ใช่แค่ประเทศไทย ประเทศอื่นก็ต้องการ

มันก็ต้องทำให้เห็น คุยกันเรื่องแนวทาง ถามว่าจะผลิตนักบิน ถ้าหากทางหน่วยควบคุมหรือกระทรวงศึกษาบอกว่ามีสนามบินหรือเปล่า มีเครื่องบินหรือเปล่า แล้วจะเปิดได้ยังไง ก็เราไม่มี แต่เราเปิดได้ ร่วมมือกันได้ ทำไมถึงร่วมมือไม่ได้ล่ะ

ถามว่าดีไหม ก็ดี แต่เขาไม่คิดไง เขาคิดว่าจะเปิดโรงเรียนแพทย์ต้องมีโรงพยาบาลเป็นของตัวเอง ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมีใครเปิด อยู่ไปอย่างนี้ มันก็ต้องเปิดแนวคิดกว้างบ้าง เปิดขอบฟ้าบ้าง ไปถือเขาถือเราทำไม เราทำเพื่อประเทศ ไม่ใช่เพื่อเรา

บางคนบอกว่าหมอคนนี้ไม่ใช่ปริญญาเอก ต้องปริญญาเอกถึงจะมาเป็นอาจารย์ เราก็บอกว่า หมอที่ได้บอร์ดเทียบเท่าปริญญาเอก เขาถึงยอมรับ อาจารย์การบินไม่ได้ปริญญาเอก ก็บอกว่า มันมีไหมล่ะในโลกนี้ Ph.D. ทางด้านการบิน แต่เรามีพลอากาศเอก ใช้ได้ไหมล่ะ

งานวิจัยอย่าไปคิดแต่งานวิจัยขึ้นหิ้งเป็นเล่มๆ หมอเวลาเขาปฏิบัติเขาผ่าตัดมากขึ้นๆ เป็นงานวิจัยภาคปฏิบัติจริงๆ ผ่าตัดดีขึ้น รักษาคนให้หายมากขึ้น นั่นล่ะคืองานวิจัยที่มีคุณค่าที่แท้จริง เราต้องให้ความคิดแบบนี้กับเขา

บางทีประเทศเรามีอะไรเยอะแยะ เราไม่ค่อยเห็นคุณค่า ทำให้ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร ต้องมีปริญญาเท่านั้น คนไทยยึดติดรูปแบบ เจ้าขุนมูลนาย ผมถึงบอกว่าการศึกษาไทยต้องไม่เจ้าขุนมูลนาย ไม่ยึดติดรูปแบบ แบ่งชั้นวรรณะ ดูถูกเหยียดหยาม แต่วันนี้มีความคิดแบบกระพี้ๆ ไม่ดูแก่นของเรื่อง

หมายเหตุ : หนังสือ อาทิตย์ อุไรรัตน์ “แกะดำโลกสวย”

https://thaipublica.org/2016/06/arthit-ourairat-12-6-2559/